ตั้งแต่เปลี่ยนระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่จากเดิมคือ ระบบเอนทรานซ์มาเป็นระบบเอเน็ต โอเน็ต จีพีเอ จีแพค อะไรนั่นน่ะ สร้างปัญหายุ่งยากให้เกิดขึ้นแก่นักเรียนทุกปี
ผมเองก็รู้เรื่องระบบสอบแบบใหม่ไม่มากเพราะเลยวัยมานานแล้ว รู้แต่ว่าที่ยกเลิกระบบเอนทรานซ์ไปก็เพื่อจะแก้ปัญหาที่เด็กต้องไปเรียนพิเศษกับพวกโรงเรียนกวดวิชามากเกินไป จนไม่ค่อยให้ความสำคัญในโรงเรียนสามัญ
ทำให้เด็กและผู้ปกครองต้องเสียเงินให้กับพวกร.ร.กวดวิชาแพงๆ จนกลายเป็นแฟชั่นในระบบมัธยมศึกษาไทย ใครมีเงินมากก็ได้ไปจ่ายมากเรียนมาก ส่วนใครไม่มีเงินก็มักจะมีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยรัฐได้น้อยลง เป็นค่านิยมที่ฝังหัวเด็กๆ มานานนับสิบๆ ปี
แน่นอนปัญหามันเกิดตรงที่มีข้อครหาข้อสอบเข้ามหาลัยแบบเก่า(เอนทรานซ์) ว่า มันยากเกินหลักสูตรสามัญไปมาก จนทำให้เด็กต้องขวนขวายหาแหล่งความรู้นอกโรงเรียนมาเพื่อการสอบแข่งขัน ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
ทำไมโรงเรียนกวดวิชาดังๆทำไมรวยเอาๆ อาจารย์ดังๆ ของมหาลัยและโรงเรียนดังต่างก็มักจะออกไปสอนพิเศษกันมากมายที่โรงเรียนกวดวิชา มันมีนอกมีในอะไรกันนะ ที่ทำให้เด็กไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างพอเพียงในโรงเรียนได้?
สุดท้ายแล้ว การแก้ปัญหาเรื่องสอบเอนทรานซ์แบบเก่าที่ได้รับการยอมรับและใช้กันมานานนับครึ่งศตวรรษก็ยังมีปัญหาไม่มากเท่าระบบเอเน็ตโอเน็ตที่ยุ่งยากซับซ้อน จนทำให้เด็กนักเรียนได้งง! กันได้ทุกปี
แต่แล้ววิธีใหม่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการที่เด็กต้องออกไปเรียนกวดวิชาเลย ทุกวันนี้เด็กไทยยังเสียเงินให้กับกิจกรรมเรียนพิเศษมากมายมหาศาลเหมือนเดิมแถมมากขึ้นกว่าระบบเอนทรานซ์เดิมเดิมด้วย
ผมคิดถึงระบบเอนทรานซ์สมัยก่อนจัง สงสารเด็กๆสมัยนี้ที่ต้องลำบากลำบนกันตลอด3ปีเป็นอย่างน้อย สำหรับระบบเอนทรานซ์สมัยก่อนผมคิดว่า ดีมากนะ และแฟร์ด้วย เท่าที่จำได้ไม่เคยมีเด็กนักเรียนออกมาบ่นระบบเอนทรานซ์แบบเก่าเลย ทุกคนยอมรับกติกานี้เสมอภาคกัน จะมีบ้างก็ตรงทำไมข้อสอบมันยากฉิบ! เท่านั้น
ระบบเอนทรานซ์เก่า ข้อดีคือ เปิดโอกาสให้เด็กทุกคนมีโอกาสกลับตัวกลับใจให้หันมาเดินทางถูก เช่น ตอน ม.4 ม.5 อาจจะขี้เกียจเรียน เรียนๆเล่นๆ แต่พอมาคิดได้ตอนม.6 กลับตัวกลับใจเสียใหม่ก็ยังมีโอกาสเอนทรานซ์ติดหมอ ติดวิศวะ หรือคณะยากๆได้มากมาย
ผมมีเพื่อนฝูงหลายคนก็เคยเป็นแบบองคุลีมาล คือแบบฉลาดแต่ขี้เกียจในตอนต้น แต่ก็กลับตัวขยันได้ทัน แม้จะเรียนในโรงเรียนคะแนนลุ่มๆดอนๆ แค่พอผ่าน แต่ก็สอบเข้าคณะดีๆได้หลายคน อาจไม่ถึงกับได้หมอ หรือวิศวะ แต่พวกสถาปัตย์ บัญชี นี่เห็นมาเยอะ (แถมหลายคนก็ไม่ได้ไปเรียนกวดวิชาเลย แต่กรณีนี้ต้องขยันอย่างสม่ำเสมอเป๋นส่วนใหญ่ตั้งแต่ต้น)
ที่จริงทำไมไม่ปรับปรุงการสอนในโรงเรียนให้เด็กได้เก่งให้เหมือนโรงเรียนกวดวิชา?
ระบบเอนทรานซ์เก่า หากคุณได้เกรดเฉลี่ยในโรงเรียนแค่พอผ่าน เช่นได้เกรด1ทุกวิชา คุณก็ยังสามารถเอนทรานซ์ได้เท่าที่ใจคุณอยาก ไม่มีการจำกัดสิทธิแต่อย่างใด หรือเรียนสายศิลป์ อยากจะไปสอบหมอก็มีสิทธิสอบได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่า คุณเก่งจริงหรือเปล่าเท่านั้น? เรียกได้ว่าระบบเอนทรานซ์เปิดโอกาสให้คุณแก้ตัวกลับใจได้ใหม่มากกว่า
(ระบบเอนทรานซ์เก่า สมัยผมเด็กๆ นักเรียนสามารถเลือกคณะได้มากถึง6คณะ และสถาบันได้มากถึง6สถาบัน โดยไม่ซ้ำกันได้)
เท่าที่รู้นะ ระบบใหม่สร้างความลำบากให้เด็กทุกปี แทนที่วัยมัธยมปลายจะเป็นวัยที่สร้างสมมิตรภาพกับเพื่อนๆ และหาความสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น กลับถูกระบบบังคับให้ต้องเครียดไปทุกปี แถมหากเด็กพลาดเก็บคะแนนตอนต้น ก็ยากที่จะกลับใจแก้ตัวใหม่ตอนบั้นปลาย สู้สมัยเอนทรานซ์เก่าไม่ได้เลย ใครใคร่สอบเชิญตามสบาย แฟร์ๆดี
ระบบใหม่มันยุ่งตั้งแต่เรื่องการสมัครยันเรื่องประกาศผล เพราะคนที่ควรได้กลับหลุดเฉย คนที่ไม่เก่งกลับเข้าได้ แบบการตรวจการคัดเลือกก็มีจุดบกพร่องมากมาย วุ่นวายทุกปี
สมัยระบบเอนทรานซ์เก่านะ โรงเรียนของผมไปซื้อใบสมัครมาให้นักเรียนกรอกถึงที่ พอจ่ายเงินไป โรงเรียนก็ไปยิ่นใบสมัครให้นักเรียนที่ทบวงทีเดียวพร้อมกันทั้งโรงเรียน ไร้ปัญหา นักเรียนไม่ต้องไปสมัครเองเลย สบายจะตาย แถมไม่มีตกหล่นเหมือนสมัยนี้ ที่เชื่อเทคโนโลยีมากเกินไป พอเทคโนโลยีผิดพลาดก็จนปัญญาจัดการแก้ปัญหา โบ้ยกันไปมา เฮ้อ!สงสารเด็กไทยจัง
ประเทศที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เขาก็ยังใช้ระบบเอนทรานซ์แบบเดิมๆ ตัดสินกันทีเดียวไปเลย ไม่ต้องมาสะสมคะแนนโน่นนี่ให้งง ให้ปวดหัว !!
เขาไม่เห็นวุ่นวายเจือกแบบรัฐบาลไทยเลย ที่สรรหาความยุ่งยากยิ่งกว่าเดิมมาแทนที่ระบบเอนทรานซ์
ถ้าถามว่า ระบบโอเน็ต เอเน็ต แอดมิตชัน เริ่มสมัยรัฐบาลไหน ?
ตอบว่า ก็สมัยรัฐบาลทักษิณไงครับ ยิ่งทำให้มันยุ่งยกซับซ้อนมากเท่าไหร่ แม่งก็ยิ่งโกงกินกันได้มากขึ้นนั่นแหละ
------------
ระบบเอนทรานซ์เก่าเป็นยังไง ?
1. สอบครั้งเดียว ไม่ต้องเอาคะแนนในโรงเรียนมายุ่งเกี่ยว ตัดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ว่าแต่ละโรงเรียนมีมาตรฐานการให้คะแนนและข้อสอบที่แตกต่างกัน
2. เอนทรานซ์ ซื้อใบสมัครใบเดียว เลือกได้ทุกมหาวิทยาลัยรัฐและทุกคณะทั่วประเทศ
3. สอบวิชาสามัญครั้งเดียว ไม่ต้องไปสอบหลายครั้งหลายหน ถ้าใครสมัครคณะที่ต้องใช้วิชาเฉพาะทางก็ไปสอบวิชาความถนัดต่างหาก
4. คะแนนออกมายุติธรรม สามารถจัดอันดับให้นักเรียนไปติดมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้ตามการเรียงคะแนนและอันดับที่นักเรียนเลือก
5. ระบบเอนทรานซ์ไม่สับสน ไม่วุ่นวาย ไม่สิ้นเปลือง ไม่ต้องเดินทางบ่อย
6. ประหยัดเงิน เพราะสมัครครั้งเดียวแต่สมัครได้ทุกมหาวิทยาลัยได้ทั่วประเทศโดยอัตโนมัติ
เพราะนักเรียนรุ่นใหม่ ไม่เคยผ่านระบบเอนทรานซ์ จึงไม่รู้ว่าระบบเอนทรานซ์นี่แหละเพอร์เฟคที่สุดแล้ว
---------------
ไม่ใช่เฉพาะระบบเอนทรานซ์อย่างเดียวที่ไม่น่ายกเลิก ผมว่าระบบสอบเข้าโรงเรียนมัธยมของไทยแบบเก่าก็ไม่น่ายกเลิก แทนที่โรงเรียนดังๆ จะมีนักเรียนดีๆ เรียน เดี๋ยวนี้นักเรียนกุ๊ยๆอ่อนๆก็มีสิทธิเข้าไปเรียน เพราะมีการจับฉลากนี่แหล่ะ
เมื่อก่อนใครเรียนบดินทร์(แท้) เรียนสตรีวิทย์(แท้) เรียนสวนกุหลาบ(แท้) จะภูมิใจว่าเรานี่เก่งนะ แต่เดี๋ยวนี้ความภูมิใจมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะโรงเรียนเหล่านี้ ไม่ใช่มีแต่คนเก่งเสมอไปอีกแล้ว
ระบบการศึกษาไทยกลายเป็นว่า ให้โอกาสเด็กไม่เก่งมากกว่าเด็กเก่งไปเสียแล้วทำให้ชาติไทยถึงได้เจริญลงทุกวัน ซึ่งตอนนี้ถ้านับในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว
มาตรฐานของโรงเรียนรัฐก็ใกล้เคียงกันมากขึ้น แต่ค่านิยมที่อยากเข้าโรงเรียนดังออริจิน่อนแท้ๆ ก็ยังมีอยู่ ฉะนั้น !! ถ้าใครอยากได้เรียนโรงเรียนดังออริจิน่อน ก็ควรสอบคัดเลือกเท่านั้น แต่ถ้าเป็นแบบสาขา1 สาขา2 สาขา3 อะไรนั้น จะมีทั้งสอบทั้งเส้นทั้งจับสลากเข้า ผมก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
เรื่องอื่นที่น่าจะไปคิดแก้ปัญหามากว่านี้ รัฐไม่ไปคิด ไอ้เรื่องที่แต่ก่อนแต่ไรเขาก็ยอมรับกันได้นมนาน ก็มาแก้ให้เป็นปัญหา นี่แหล่ะ นักการเมืองไทย
ถ้าน้องๆหลานๆที่กำลังจะสอบเอนทรานซ์ในอนาคต หากได้มีโอกาสมาอ่านบทความเรื่องนี้
ผมขอแนะนำให้มาชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลยกเลิกไอ้ระบบเอเน็ตโอเน็ตบ้าๆ นี่เถอะ กลับมาใช้ระบบเอนทรานซ์แบบเดิมๆ ดีกว่านะ เชื่อผมเถอะ แล้วจะไม่ผิดหวัง
หรือน่าจะให้เด็กม.ปลายทั้งประเทศ มาลงคะแนนเสียงทำประชามติไปเลยว่า จะเอาระบบสอบแบบไหนดี ?
-----------------
ล่าสุด ปี 2559 กระทรวงและทบวงมหาวิทยาลัย ก็ปรับปรุงระบบแอดมิตชันอีกแล้ว คือให้สอบวิชาสามัญด้วยข้อสอบกลางครั้งเดียว แล้วให้นักเรียนเอาคะแนนไปยื่นสมัครสอบในแต่ละมหาวิทยาลัยเอาเอง
ซึ่งผมว่า ระบบใหม่ปี 59 นี้ก็เริ่มกลับมาใกล้เคียงสู้ระบบเอนทรานซ์ แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่ดี คือนักเรียนก็ต้องไปสมัครในแตละมหาวิทยาลัยเอาเอง ซึ่งเปลืองค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน
ต่างจากระบบเอนทรานซ์ เมื่อสอบเสร็จรู้คะแนนแล้ว ระบบเอนทรานซ์จะจัดสรรตามระดับคะแนนไปตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ และตามการเลือกคณะและแมาวิทยาลัยที่นักเรียนเลือกไว้แล้ เรียงตามลำดับตั้งแต่อันดับ 1 ถึง 6
ระบบเอนเทรานซ์ช่วยให้นักเรียนที่ยากจนมีโอกาสเท่าเทียมมากขึ้นกับนักเรียนที่มีเงิน คือจ่ายเงินเท่ากันในราคาไม่แพง และเลือกมหาวิทยาลัยและคณะได้ทุกแห่งในประเทศ
ระบบเอนทรานซ์ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้นักเรียน ช่วยลดปัญหารถติด ช่วยลดปัญหาความไม่เท่าเทียมกันของฐานะนักเรียนได้เป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com