ชาเขียว เครื่องดื่มอินเทรนในไทยมาหลายปี โดยเจ้าแรกที่ครองตลาดคือ ยูนิฟ กรีนที ตัวผมก็เคยชอบดื่มชาเขียวของยูนิฟ เมื่อ10กว่าปีมาแล้ว ช่วงนั้นยูนิฟเป็นเจ้าตลาด และยังขายในแบบกล่องUHT ซึ่งเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว ผมชอบดืมยูนิฟกรีนที แบบผสมน้ำผึ้ง ราคาขายตอนนั้น กล่องละ 12 บาทในขนาด 250 cc. (คงเพราะมาใหม่เจ้าแรก ราคาเลยสูง)
สำหรับผม ผมก็ว่าชาเขียวยูนิฟหวานอร่อยดีนะ (ถ้าชาเขียวแบบออริจิน่อน ไม่มีน้ำตาล ผมไม่ชอบ เพราะผมกินหวาน)
ทีนี้กระแสชาเขียวแรงมาก เพราะบริษัทชาเขียวพยายามสื่อโฆษณาให้ผู้บริโภคเห็นว่า ชาเขียวมีประโยชน์ คนญี่ปุ่นเขาชอบดื่ม ทำให้คนญี่ปุ่นแข็งแรง เพราะมีสารป้องกันมะเร็ง
เพราะกระแสโปรโมทว่าชาเขียวมีประโยชน์ ทำให้ คนไทยอย่างผมก็หลงเชื่อ ดื่มกันเข้าไปอย่างมาก เพราะรสอร่อยแบบแปลกๆ ดื่มไปบ่อยๆก็เริ่มชอบ และเชื่อว่ามันอร่อย มันดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ในยุคแรกๆของตลาดชาเขียว ก็มีไม่กี่เจ้าหรอก แต่เจ้าตลาด ที่ครองตลาดมากที่สุดก็คือยูนิฟ และควรต้องยกย่องยูนิฟตรงที่บุกเบิกตลาดชาเขียว จนคนไทยให้การยอมรับ ด้วยโฆษณาหนอนชาเขียวอันโด่งดัง (เพราะการบุกเบิกตลาดใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ)
อ่านบทความจากคมชัดลึก ชาเขียวต้านมะเร็งในคนได้จริงหรือ?
โฆษณาหนอนใบชา กับคาถาชิเมโจเต๋ !!
-----------------------------
โออิชิ มาล้มแชมป์ยูนิฟ
ยูนิฟครองตลาดมาหลายปี ก็ต้องมาเสียแชมป์ให้โออิชิ เพราะโออิชิ ทำรสชาติชาเขียวให้เข้มข้นขึ้น โดยเริ่มจากการขายในร้านอาหารโออิชิ ให้ลูกค้าที่มากินบุฟเฟ่ต์ซื้อติดไม้ติดมือแบบขวดสำเร็จรูปกลับไปดื่มที่บ้านหลังจากดื่มฟรีในร้าน
และเมื่อร้านอาหารโออิชิบูม ชาเขียวโออิชิ ก็พลอยขายดีไปด้วย คุณตันก็เลยนำโออิชิกรีนทีออกมาขายสู่ตลาดภายนอก
ลูกค้าเลยเกิดมีความเชื่อที่ว่า รสชาติเข้มข้นต้องได้ประโยชน์จากสรรพคุณชาเขียวมากกว่ายี่ห้ออื่นแน่ๆ ชาเขียวของโออิชิจึงมีรสฝาดของมากกว่ายูนิฟ ส่วนยูนิฟก็จะรสหวานมากกว่า
ทีนี้กระแสลดกินหวานมาแรง โออิชิเลยเติบโตได้เร็ว บวกกับการตลาดที่เก่งของโออิชิ(โฆษณาเก่งนั่นแหล่ะ) ทำให้ชาโออิชิมาแรงเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จนชาเขียวโออิชิก็ล้มยูนิฟแชมป์เก่าได้ในที่สุด
อ่านกลยุทธล้มแชมป์ของโออิชิ
--------------------------------
ชาเขียวโออิชิ ดังมาก ขายดีมากจนเป็นเจ้าตลาด แต่สุดท้ายคุณตันก็ยอมขายแบรนด์โออิชิทั้งหมดให้แก่ไทยเบฟเวอเรจ(บ.เบียร์ช้าง) สาเหตุที่ขายก็คือเอาเงินดีกว่าแข่งกับยักษ์ใหญ่ ขายในตอนที่ราคาดี ดีกว่าแข่งกับยักษ์แล้วล้มสลาย
เพราะคุณตันในตอนนั้นคิดว่า สายป่านของไทยเบฟฯยาวกว่า เลยขายหุ้นเอาเงินไว้ก่อนดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งคุณตันก็อยู่บริหารโออิชิให้ไทยเบฟ ไปอีก 5 ปี ทั้ง ๆที่ในสัญญาคุณตันต้องทำเพียง 3 ปี เท่านั้น
คุณตัน ได้บริหารโออิชิในเครือไทยเบฟฯ จากยอดขายปีละ4,000ล้าน กลายเป็นหมื่นล้าน!! และทำให้หุ้นจาก32บาท เป็น100บาท (ทำให้คุณตันเริ่มคิดว่า กูคิดผิดหรือเปล่าที่ขายโออิชิให้เบียร์ช้าง)
และหลังจากนั้น คุณตันก็ลาออกจากโออิชิ ในทุกตำแหน่ง
อ่านเสี่ยตันหัน3,000ล้านขายโออิชิ
------------------------------
ต่อมาคุณตัน ก็มาเปิดแบรนด์ชาเขียวใหม่อีกยี่ห้อ ชื่อ อิชิตัน ซึ่งถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่ต้องมาชนกับเจ้าตลาดที่ตัวเองเคยสร้างมากับมืออย่างโออิชิ
คุณตัน เก่งเรื่องการตลาดมาก จับเอาโน๊ต อุดม มาช่วยทำให้อิชิตัน และสินค้าเครื่องดื่มในเครือบริษัท ไม่ตัน ทั้งหลาย
คุณตัน ลงทุนไปหลายพันล้านในการสร้างโรงงาน แถมทุ่มงบโฆษณาไปนับร้อยล้าน เพื่อจะให้ทุกแบรนด์ใหม่ของตัวเองเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว
"การเข้ามาทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม อิชิตัน ผมไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะเป็นเบอร์ 1 ในตลาด แต่ต้องการเป็นอันดับ 1 ในด้านของคุณภาพของผลิตชาที่ดีสู่ผู้บริโภค ซึ่งมีด้วยกัน 3 รสชาติ คือ ออริจินัล น้ำผึ้งผสมมะนาว และเก๊กฮวย ส่วนยอดขาย ดับเบิ้ล ดริ้งค์ ที่ผ่านมา จัดว่าเป็นฟังก์ชันนัลดริงก์ ที่ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขาย 50 ล้านบาท จากตลาดมูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท" เสี่ยตัน กล่าว
อ่านข่าว “ตัน” ปั้นอิชิตันถล่มบ้านเก่า ไร้สัญญาใจ “เจริญ”-เกทับไซส์โออิชิ
----------------------------
วันนี้คุณเลิกดื่มชาเขียวกันแล้วรึยัง??
ถึงตอนนี้ การวิจัยของนักวิชาการระบุว่า ชาเขียวบรรจุขวดที่เราๆท่านๆ ดื่มกันอยู่นั้น ไม่ได้มีสารสำคัญอะไรมากมายเท่าที่อวดอ้างสรรพคุณ เพราะสารที่ว่าต่อต้านมะเร็งนั้น ในชาเขียวบรรจุขวดสำเร็จรูปที่ขายในบ้านเรานั้น มีสารสำคัญน้อยมากๆ จนแทบไม่มีเลยก็ว่าได้
พูดง่ายๆก็คือ ชาเขียวราคาแพง แต่ประโยชน์ที่ได้แสนจะถูก
กระแสชาเขียวทำให้หลายปีก่อนกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบต้นทุนการผลิตแล้ว พบว่่าเฉพาะค่าวัตถถดิบอย่าง ใบชา น้ำตาล น้ำ กลิ่น มีต้นทุนต่อขวดเพียงขวดละ1.50บาทเท่านั้น ไม่รวมค่าขวด ค่าการผลิต (ราคาขายปลีกตอนนั้นขวดละ20บาท)
ต่อมาในวันนี้ ตลาดชาเขียวรุนแรงมากขึ้น เพราะมีคู่แข่งมาก ทำให้มีการลดราคาลงมาอีก ไม่ได้ขาย20บาทเหมือนเมื่อก่อน
อ่านกระทรวงพาณิชย์แฉต้นทุนชาเขียว
อ่านพาณิชย์เพิ่งตื่นบีบชาเขียวลดราคา
-----------------------------------
ทีนี้ผมเลยมาคิดๆว่า เมื่อก่อนที่ขายราคาขวดละ 20 บาท ก็คงทำกำไรมหาศาลให้แก่บริษัทชาเขียวต่างๆมากมาย ทั้งๆที่ประโยชน์และคุณค่าไม่ได้มีมากตามที่อวดสรรพคุณจริง
มาถึงปี54 เจ้าตลาดอย่างโออิชิยังลดราคาตัดราคาลงมาเพื่อสกัดคู่แข่งรายใหม่แต่หน้าเก่า (แต่ก็ยังมีกำไรอีกมาก เชื่อผมสิ??)
เพราะกำไรในชาเขียวมีมาก มากจนยั่วยวนให้คุณตันต้องกลับมาตลาดชาเขียวอีกครั้ง
ไม่งั้นคุณตัน คงไม่ลงมาทำชาเขียวอีกหรอก นั่นเพราะ มันทำให้เขาร่ำรวยเป็นหมื่นล้าน ในเวลาไม่กี่ปีนั่นเอง
อ่านสงครามชาเขียว โออิชิ ปะทะอิชิตัน
----------------------------
ทุกวันนี้ ผมเลิกดื่มชาเขียวสำเร็จรูปในท้องตลาดมากว่า10ปีแล้วครับ เพราะผมรู้ว่า มันไม่ได้มีคุณค่าอะไรมากมาย เหมือนกับกับชาเขียวแท้ๆชงใหม่ๆ แบบที่คนญี่ปุ่นเขาชงดื่มหรอกครับ (อย่างในพิธีชงชา)
กับราคาที่แพงเกินไป แพงเกินกว่าคุณค่าที่ควรจะมี จนไปสร้างความร่ำรวยมหาศาลให้กับพ่อค้าจอมโฆษณาหลาย ๆ บริษัท
ในวันนี้ ผมจึงไม่อยากให้คนไทยตกเป็นเหยื่อโฆษณาเว่อร์ๆ จากพ่อค้านักการตลาดผู้ร่ำรวยทั้งหลาย ที่มาหลอกคนไทยให้เชื่อและหลงไปดื่มอะไรที่แพงเกินประโยชน์ที่แท้จริงของมัน
ก็เว่อร์กันทุกยี่ห้อนั่นแหล่ะ ผมว่านะ
อ่านชาเขียวอวดอ้างสรรพคุณ
-----------------------------------
ย้อนดู ตัน ลาออกจาก โออิชิ
ดูเสี่ยตัน เปิดใจออกจากโออิชิ
----------------------------------
ดูจะจะ!! อีกครั้งว่า คุณตัน บอกว่า หลังจากออกจากโออิชิ จะไปทำอะไรต่อ?? (เสี่ยตันโกหก หรือแค่เปลี่ยนใจ!!?)
V
V
แนะนำอ่าน กระทู้ธุรกิจที่วิเคราะห์อย่างถึงกึ๋น
เรื่อง อิชิตัน - ย้อนเกล็ดโออิชิที่เจ็บแสบ (รับรองความมันส์!!)
ถ้าคุณได้อ่านกระทู้ธุรกิจข้างบนแล้ว บางทีคุณอาจคิดเหมือนผม ว่า หรืออนาคตคุณตัน จะเล่นการเมือง หรือว่า คุณตัน อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยในอนาคต?? ในวงเล็บว่า..
(ถ้าไม่ห้ามให้คนจบแค่ม.ศ.3 อย่างเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ผมก็อยากลองให้คุณตัน ลองเป็นนายกรัฐมนตรีไทยอยู่เหมือนกัน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com