วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขอฎีกากับคดีที่ดินรัชดาของทักษิณ





ผมเคยเขียนไปแล้วกับคดีที่ดินรัชดากับคดีชิมไปบ่นไป แม้ผมไม่ใช่นักกฎหมาย แต่ผมก็เข้าใจแบบที่ผมเข้าใจด้วยวิจารณญาณส่วนตัว ซึ่งแน่นอนแม้แต่นักกฎหมายแท้ๆเองก็ยังถกเถียงกันกับเรื่องนี้แบบไม่ตรงกัน เขาจึงต้องมีศาลไว้ตัดสินแทนไง ไม่งั้นยุ่งตาย
.
ผมจะขออธิบายคดีที่ดินรัชดาแบบบ้านๆง่ายๆ เพราะเขียนคราวที่แล้วมันดูยืดยาวไป อยากให้มันไม่ต้องไปหนักทางวิชาการมากนัก ไม่ต้องยกกฎหมายฉบับโน้นข้อนั้นข้อนี้มาอ้างให้มึน! แต่ขออธิบายตามความรู้สึกของตนเอง แบบชาวบ้านธรรมดาคนนึง ใครไม่เชื่อก็แล้วแต่

กฎหมายเอาผิดทักษิณเขาเขียนมาก่อนมีการปฏิวัติของคมช. ความผิดที่เกิดก็เกิดข้อถกเถียงก่อนที่จะมีคมช. กฎหมายปปช.ปี42 เขาห้ามให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นนายกฯหรือรมต.หรือรมช. และเมีย อย่าได้ไปซื้อขายทรัพย์สินจากหน่วยงานของรัฐเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น (แม้ทักษิณจะอ้างฟังขึ้นบ้างก็ตามว่า ถูกเผด็การใส่ร้าย แต่ทักษิณก็ไม่เคยบอกว่า ตรงไหน จุดไหนที่คตส.ใส่ร้ายว่าเป็นข้อมูลเท็จ)

แต่เมียทักษิณไปประมูลซื้อที่ดินจากหน่วยงานรัฐคือกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งมีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กับปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานและรองกรรมการบริหารอยู่

ซึ่งทั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยกับรองปลัดกระทรวงการคลังนี้ ก็สามารถโดนรมต.คลังสั่งปลดสั่งย้ายได้ และนายกฯก็สามารถสั่งปลดรมต.คลังได้ ทำให้นายกฯจึงมีอำนาจควบคุมแบบอ้อมๆกับหน่วยงานกองทุนฟื้นฟูนี้ ซึ่งอาจทำให้ข้าราชการเกรงใจเมียนายกฯไปด้วย ซึ่งอาจถูกครหาว่าไม่เป็นธรรมแก่ผู้ร่วมเข้าประมูลรายอื่นได้ (กฎหมายเขาถึงห้าม)

ที่สำคัญกองทุนฟื้นฟูฯ ก็ได้รับเงินอุดหนุนจจากรัฐบาล จึงถือว่าเป็นหน่วยงานประเภทหนึ่งของรัฐ แม้จะมีการจัดการไม่เหมือนระบบข้าราชการก็ตาม

ในฐานะที่ทักษิณเป็นนายกฯ ที่มีอำนาจให้คุณให้โทษแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ทักษิณจึงต้องคอยกำกับตรวจสอบเมียไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกรรมในทรัพย์สินของรัฐ เพราะจะถือเป็นความผิดฐานปล่อยปละละเลยในฐานะสามีและนายกฯที่ต้องมีความรับผิดชอบทางจริยธรรมสูงกว่าคนทั่วไป

เมียทักษิณไปซื้อไม่ผิดหรอกครับ แต่คนที่ผิดก็คือทักษิณ เพราะไม่ดูแลเมียตัวเองให้ดี ปล่อยให้ไปซื้อในสิ่งที่เขาห้าม
.
ถ้าจะบอกว่าเมียทักษิณไม่ผิดกฎหมายที่ไปซื้อที่ดินก็ถูกต้อง !!

เพราะเมียทักษิณไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะกฎหมายนี้เขามีไว้สั่งให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองควรจะดูแลคนใกล้ชิดไม่ให้ไปทำ หรือมีไว้เล่นงานผู้ดำรงตำแหน่งโดยเฉพาะ

ในเมื่อทักษิณในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ดูแลเมียตัวเองให้ดี ปล่อยให้เมียไปซื้อ จึงถือว่าทักษิณผิดครับ ที่บกพร่องในหน้าที่สามีที่ดำรงตำแหน่งสำคัญ

มันเป็นความผิดเชิงจริยธรรมนั่นเอง(เรื่องทุจริตในหน้าที่หรือไม่นั้นยังเป็นแค่ประเด็นรอง) ซึ่งก็คล้ายๆคดีซุกหุ้นภาค1 ที่ทักษิณก็อาจอ้างได้ว่า ตัวเองเป็นนักธุรกิจไม่ค่อยมีความเข้าใจในเรื่องกฎหมายดีพอ จึงไม่มีเจตนาทำผิด หากจะผิดก็เพราะบกพร่องโดยสุจริต

ซึ่งตอนนั้นก็มีคำครหาต่อศาลเหมือนกันว่า ตัดสิน2มาตรฐานหรือไม่? ซึ่งตอนนั้นทักษิณก็บอกว่า ศาลยุติธรรม (เวลาตนได้ประโยชน์ศาลก็ยุติธรรม!! แต่หากตนเสียประโยชน์ศาลไม่ยุติธรรม!?)

คราวคดีที่ดินรัชดานี้ทักษิณเป็นนายกฯมาหลายปีแล้ว หากจะมาอ้างว่าบกพร่องโดยสุจริตอีกก็คงฟังไม่ขึ้น

คดีที่ดินรัชดานี้ หากเปรียบเทียบคล้ายๆคดีเมืองนอก เช่นพ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลยให้ลูก8ขวบไปขับรถทั้งๆที่ลูกไม่มีใบขับขี่ เพราะอายุไม่ถึง ลูกไม่มีความผิดเพราะยังเด็ก แต่พ่อแม่ผิดเพราะไม่ดูแลลูกให้ดีเป็นต้น
.
ทักษิณจึงผิดที่ไม่ควบคุมเมียให้ดีไม่แนะนำสิ่งที่ถุกต้องให่เมียเข้าใจ!!! ว่ามึงอย่าไปซื้อนะ เพราะมึงจะทำกูผัวมึงเดือดร้อน!!!!
.
คงคล้ายๆคดีอดีตปธน.เกาหลีใต้นายโนห์ มูเฮียน ที่โดดหน้าผาฆ่าตาย เพราะเมียกับลูกไปรับสินบนโดยที่ตัวเองไม่รู้ ในฐานะที่เป็นถึงอดีตปธน.เกิดความละอายที่ตัวเองไม่ดูแลเมียให้ดี จึงยอมตายเพื่อชดใช้ความบกพร่องของตนในฐานะสามี และพ่อ และในฐานะเคยเป็นถึงประธานาธิบดี
.
(กฎหมายเกาหลีเขาไม่เหมือนของเราครับ ของเขาอดีตผู้นำละอายใจและมีสำนึกผิดในความบกพร่องในหน้าที่ตนเอง โดยไม่ต้องรอให้ศ่าลต้องตัดสิน แต่ของไทยต้องขึ้นศาลเท่านั้น ไม่งั้นไม่เคยสำนึก หรือแม้ศาลตัดสินแล้ว ก็ยังมีคนไม่สำนึก)

แต่กรณีทักษิณเป็นบุคคลสำคัญที่ต้องเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน แม้ผิดดูจะไม่มากนัก (หากทักษิณบอกไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เมียไปทำจริง) แตในความรับผิดชอบของคนเป็นนายกรัฐมนตรีย่อมต้องสูงกว่าคนทั่วไป

แต่ในความเป็นจริง ทักษิณอ้างฟังไม่ขึ้นครับที่ว่า ไม่รู้ไม่เห็นว่าเมียจะไปซื้อที่ดินแห่งนี้ เพราะภายหลังคำตัดสิน ก็มีหนึ่งในทีมทนายความของทักษิณออกมาพูดว่า เคยเตือนทักษิณแล้วว่าอย่าไปเสี่ยงซื้อที่ดินแห่งนี้เลย เพราะอาจมีปัญหาภายหลังได้ เพราะปัญหาการตีความยังไม่มีความไม่แน่ชัด

ทักษิณก็เลยไปถามข้าราชการที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบดูว่า สามารถซื้อได้หรือไม่ ซึ่งข้าราชการสอพลอก็เลียนาย บอกทักษิณไปว่า "ซื้อได้ครับท่าน" จึงทำให้เมียทักษิณตัดสินไปประมูลซื้อ

ผมมองแบบชาวบ้านๆว่า เมื่อเห็นกฎหมายเขาห้ามซื้อทักษิณก็ไม่ควรไปเสี่ยงซื้อ แม้จะมีข้อกังขาว่า กองทุนฟื้นฟูจะถือเป็นหนาวยงานรัฐหรือไม่? ถามคนโน้นบอกไม่ใช่ แต่ถามคนนี้กลับบอกว่าไม่แน่
ถ้าทักษิณไม่ประมาทก็ไม่ควรไปยุ่งเลยกับที่ดินแห่งนี้เลย รวยจะตายอยู่แล้ว ปล่อยทิ้งไปสักแห่งขนหน้าแข้งคงไม่ร่วง

แล้วยังมีเรื่องมาแก้กฎหมายเรื่องอาคารสูงให้สร้างตึกสูงได้ในภายหลังอีก และแม้จะยังไปขัดกับกฎหมายของกทม.อยู่ก็ตาม ยิ่งสมัยนั้นทักษิณก็มีเสียงส่วนใหญ่ของสก. ในสภากทม. ทำให้หลายคนเขาอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน อาจจะมีไปสั่งลูกน้องให้แก้กฎหมายกทม.ให้รองรับกันหรือไม่?

ฉะนั้นหากคิดแบบชาวบ้านๆแบบผม ทักษิณจึงผิดครับ เพราะเขาห้ามเมียไปซื้อ ก็ยังปล่อยเมียไปซื้อ จึงผิดครับ ผมตัดสินแบบที่ผมคิดไปก่อนจะมีคมช.หรือโดยไม่ต้องรอศาลจะตัดสิน ผมตัดสินในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่มองแบบกลางๆทั้งๆที่ผมเองก็เคยเลือกทักษิณถึง2ครั้งในสมัยทรท.

ซึ่งประชาชนคนรักทักษิณเขาย่อมตัดสินในแบบของพวกเขา อันนี้เป็นสิทธิของทุกคนที่มีสิทธิจะเชื่อและจะคิด

*****************************

ทักษิณและคณะฯเลื่อนวันหยุดปีใหม่?? (อ้างจากวิกิพีเดีย)

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 คณะรัฐมนตรีมีมติเลื่อนวันหยุดปีใหม่ จากวันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันที่ 2 มกราคม โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ประชาชนได้หยุดยาวตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 4 มกราคม พ.ศ. 2547

ซึ่งส่งผลให้การซื้อขายที่ดินรัชดา สามารถดำเนินการได้ทันในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2546 และเสียค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน เฉพาะกรณีปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ในอัตราลดหย่อน เพียง 0.01% ที่มีผลใช้บังคับถึงสิ้นปี พ.ศ. 2546

แต่ต่อมาในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2546 กรมที่ดินได้ขยายระยะเวลาใช้อัตราลดหย่อน ไปอีก 1 ปีจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2547 (ซึ่งอาจต่ออายุกฎหมายเพื่อทำให้ที่ดินรัชดาที่ได้ของเมียมาดูชอบธรรมมากขึ้น เพราะช่วงที่เมียทักษิณโอน ยังไงๆก็แก้กฎหมายไม่ทันการแล้ว)

******************************

ถ้ายอมรับผิดซะ คงไม่ยุ่งแบบนี้

ผมเชื่อส่วนตัวนะครับว่า หากคดีนี้ทักษิณลดอัตตาลงสักนิด ยอมรับผิดโดยดี ผมเชื่อว่าศาลคงเมตตาลดโทษให้ทักษิณบ้าง

เช่น จำเลยเคยสร้างคุณงามความดีมามาก ประกอบกับสำนึกในความผิดที่ได้ทำ และจำเลยไม่เคยต้องโทษอาญามาก่อน ศาลจึงเห็นควรให้จำเลยได้รับการรอลงอาญาเป็นเวลา2ปีแทน

เพราะขนาดคดีซื้อเสียงของเนวิน ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ ก็ยังได้รับความเมตตาจากศาลให้รอลงอาญาเลย

ถ้าทักษิณยอมรับผิดซะ ไม่ดื้อ ก็คงไม่ต้องมาให้ประชานต้องมาลงชื่อถวายฎีกาแบบนี้

ที่ผ่านมาการถวายฎีกาของประชาชนที่เดือดร้อน เช่นประชานผู้ถวายขอฯมีปัญหาปากท้อง มีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บ การขอถวายฎีกาช่วยเหลือ ก็เป็นเรื่องเฉพาะตน ของใครของมันมาตลอด เป็นการขอพระราชทานความช่วยเหลือโดยตรงเท่านั้น

คนเสื้อแดงอ้างว่า ตนเองเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจความเป็นอยู่ขัดสน แทนที่จะขอให้ในหลวงพระราชทานทรัพย์ช่วยเหลือตน หรือพระราชทานรับเข้าในพระบรมราชานูปถัมป์ หรือพระราชทานโครงการหลวงไปช่วยเหลือให้ทำมาหากินได้ แต่กลายเป็นว่า

คราวนี้ กลับกลายเป็นว่า ตนเองขัดสน จึงขอให้ในหลวงช่วยทักษิณพ้นคุก?!? ผมว่าดูมันทะแม่งๆจริงๆ กลายเป็นการขอพระราชทานโดยอ้อมไปไกล

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
@..อย่างงั้นต่อไปคงมีพ่อแม่ที่มีลูกคนเดียวเลี้ยงดู แต่ลูกหนีคุกหนีคดี ไม่ไปติดคุก พ่อแม่ลำบากมากไม่มีลูกคอยดูแล เลยมาขอพระราชทานอภัยโทษให้ลูกไม่ต้องติดคุกกลับมาดูแลพ่อแม่ได้มั้ง? 555!!
.
@..หรือต่อไปอาจมีเมียมาถวายฎีกาของพระราชทานอภัยโทษช่วยให้ผัวที่กำลังหนีคดีปล้นทองที่อ้างว่าทำไปเพื่อหาเงินมาซื้อนมให้ลูก โดยเมียจะอ้างว่า ลำบากมากที่ไม่มีใครหางินซื้อนมให้ลูกกิน ขอพระราชทายอภัยโทษให้ผัวไม่ต้องติดคุก? 555!!
"
( แต่2ตัวอย่างที่ผมลองยกให้เห็นเล่นๆ ก็ยังเป็นการขอพระราชทานอภัยโทษโดยตรงจากพ่อแม่เมียลูกของนักโทษนะครับ )
.
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทักษิณก็ยังเหลือคดีค้างอีกหลายคดีรออยู่ ซึ่งทักษิณอ้างง่ายๆว่า ตนถูกเผด็จการใส่ร้าย ก็ฟังขึ้นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะคนรักทักษิณเขาพร้อมเชื่อข้ออ้างนี้ทันที (แต่ทักษิณไม่เคยลงรายละเอียดว่ามีหลักฐานอะไรที่คตส.สร้างขึ้นเพื่อใส่ร้ายตน)

สรุปง่ายๆก็คือ คมช.สร้างเหตุให้ทักษิณมีข้ออ้างง่ายๆที่อ้างแล้วฟังขึ้นซะด้วย!! ทั้งๆที่หลักฐานเอาผิดของจริงทั้งนั้น และหลักฐานที่คตส.นำมาสอบสวนก็เป็นคดีที่ทักษิณทำไว้อยู่แล้ว บางคดีก่อนคมช.เกิดตั้งนาน!!!!
.
(แม้จะถูกมองว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการก็ตาม แต่ถึงยังไงรัฐธรรมนูญปี50 ก็ยังเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกและฉบับเดียวของไทยตอนนี้ที่มีการลงประชามติรับรองจากประชาชน)



2 ความคิดเห็น:

  1. ผมยังยืนยันว่า แกนนำเสื้อแดงและนักวิชาการฝ่ายแดง ไม่มีความจริงใจต่อสถาบันฯจริงๆ

    เพราะในเว็บของเสื้อแดงทุกเว็บ จะมีทั้งบทความและกระทู้มากมายที่แสดงความไม่จงรักภักดีทั้งทางตรงทางอ้อมอยู่เสมอ

    มีการสรรเสริญการเลือกประธานาธิบดี เพราะอ้างว่าประชาชนเลือกมา

    และมีนักวิชาการมากมายไม่ได้ศรัทธาประชาธิปไตยมากกว่าสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ แต่ใช้ประชาธิปไตยมาอ้างแก้ประชาชน

    ประชาชนคนเสื้อแดงที่เล่นอินเตอร์เนตย่อมรู้ดี พวกคุณอาจหลอกชาวบ้านที่ไม่เคยเล่นอินเตอร์เนตได้ แต่พวกคุณหลอกตัวเองไม่ได้แน่นอน

    ตอบลบ
  2. ในขณะที่ทักษิณชอบใช้ดูไบเป็นฐานเรียกร้องประชาธิปไตย(แบบกู)

    แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องเอะใจก็คือ ทั้งดูไบและยูเออีก็ยังใช้ระบอบราชาธิปไตยอยู่

    แต่!! ประเทศประชาธืปไตยยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ทักษิณไม่มีสิทธิได้ไปเหยียบอีกแล้ว!?!ฮิๆคิดดู...

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม