วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หลังการประชุมรมต.อาเซียน กับฮิลลารี




การประชุมรมต.อาเซียนที่ภูเก็ตเพิ่งจบลงไปอย่างสงบเรียบร้อยดี ต่างกับที่พัทยาที่ล้มลงแบบขายขี้หน้าไปทั่วโลกเพราะเสื้อแดงบุกถล่ม

แต่การประชุมที่ภูเก็ต เสื้อแดงบอกไม่ไปป่วนการประชุม เพราะเห็นแก่ประเทศชาติ (ฮาๆ) แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ต้องขอบอกขอบใจเหล่าเสื้อแดงที่ยอมสงบสติเพื่อชาติ (แม้จะชั่วคราว ฮาๆ)

บุคคลที่น่าสนใจกว่าใครเพื่อน จนถึงกับต้องมีการต้อนรับเสียใหญ่โตมากกว่ารมต.อาเซียนทุกคนที่มางาน นั่นก็คือนางฮิลลารี คลินตัน (เมียอดีตปธน.บิล คลินตัน) รมต.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตสุภาพสตรีหมายเลข1 (ที่สามีแอบมีกิ๊กที่2ในทำเนียบขาว)

นางฮิลลารี รมต.ต่างประเทศสหรัฐ มาเซ็นลงนามให้อเมริกาเป็นพันธมิตรร่วมมือกับอาเซียนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งๆที่ผ่านมา ชวนอเมริกามากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยสนใจคิดจะเซ็นลงนาม

แต่มาคราวนี้สหรัฐอเมริกากลับยอมมาลงนามยอมเป็นพันธมิตรกับอาเซียนในสมัยที่ไทยเรามีรัฐบาลเทพอุ้มสม (เสื้อแดงชอบเรียก) (ฮาๆ) แถมอเมริกายังมาลงนามในสมัยที่ไทยมีรมต.ต่างประเทศที่กำลังโดนคดีผู้ก่อการร้าย!! (ฮาๆ)

หลังจบการประชุม นางฮิลลารี คลินตัน ก็เปิดโอกาสให้สัมภาษณ์กับสุทธิชัย หยุ่น ซึ่งตามสไตล์เฮียหยุ่น ก็ต้องมีคำถามชี้นำตามสไตล์ เช่นเรื่องพมา เฮียหยุ่นไปถามเธอว่า

"ถ้าพม่าไม่ปล่อยแม่นางอองซานซูจี ควรจะเอาพม่าออกจากอาเซียนมั้ย?"

ฮิลลารีก็เลยตอบอ้อมๆแต่ชี้นำกลับไปว่า "นั่นก็เป็นนโยบายที่อาเซียนควรจะต้องพิจารณา!!"

ฮิลลารีไม่ได้ตอบตรงๆ แต่สื่อไทยกลับตีข่าวไปซะตรงเผงเกิน! พาดหัวซะน่ากลัวว่า

ฮิลลารีหนุนอาเซียนขับพม่า! (ฮาๆ)

แล้วคำถามที่ดูผู้คนออกจะชื่นชมนางฮิลลารีเป็นการใหญ่ ก็คือคำถามที่คุณวีณารัตน์(พิธีกรร่วม) ถามว่า

"รู้สึกอย่างไรที่ต้องทำงานให้อดีตคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันในการหาเสียง ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นประธานาธิบดี?"

นางฮิลลารีเลยได้โอกาสตอบเชิงแอบหลอกสอนพี่ไทยไปซะดอก เธอตอบว่า

"เป็นหนึ่งในคำถามที่คนถามกันมาก ลองคิดดูสิเราขับเคี่ยวกันอย่างหนัก แถมยังพูดสิ่งที่อาจไม่ค่อยดีถึงกัน แต่ในประเทศของเรา เมื่อการเลือกตั้งสิ้นสุดลง เราพยายามทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
.
และในระบบของเรา เมื่อประธานาธิบดีขอให้คุณเข้ามาทำหน้าที่ คุณรู้สึกคุณควรทำเช่นนั้นเพื่อให้ประธานาธิบดีประสบความสำเร็จ และประธานาธิบดีก็ขอให้คนจากพรรครีพับลิกันมาทำงานให้ด้วย ไม่เฉพาะจากพรรคเดโมแครต รองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เคยขับเคี่ยวกับประธานาธิบดีโอบามาช่วงหนึ่ง

ตอนฉันอยู่ในอินโดนีเซีย ถูกถามคำถามนี้มาก ฉันจึงตอบไปว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่อเมริกาเรียนรู้ตลอดหลายปีแห่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย นั่นคือประเทศชาติต้องมาก่อน
การเมืองมาแล้วก็ไป คนแพ้และชนะตัวหนาการเลือกตั้ง ทันทีที่การเลือกตั้งจบลง คุณอาจยังมีความเห็นด้านนโยบายไม่ตรงกัน แต่เราควรพยายามเดินหน้าไปด้วยกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ"

โอโห! ได้เสียงปรบมือจากผู้ฟังอย่างชื่นชม ไม่รู้คนไทยที่ไปปรบมือชื่นชมกับคำพูดของฮิลลารีนั้น ลืมไปหรือเปล่าว่า เขาแอบด่าเราอยู่นะ แม้จะอ้อมๆก็เถอะ

สำหรับผม ผมไม่ได้รู้สึกพิเศษกับคำตอบของคำถามนี้ของฮิลลารีเท่าไหร่นัก เพราะผมคิดว่าคนไทยเราเจ๋งกว่านางฮิลลารีหรืออเมริกันชนอย่างเธอเยอะ

เพราะนักการเมืองไทยของเรา ขนาดไปขุดกระดูกพ่อกระดูกแม่โคตรเง่าบรรพบุรุษมาด่ากันในสภาจนแทบจะฆ่ากันตาย แต่วันดีคืนดีกลับมาจูบปากกอดคอทำงานในรัฐบาลได้เหมือนเดิม (ฮาๆ)

ถ้าฮิลลารีเจอแบบหนักๆพี่ไทยเรา ฮิลลารีก็ไม่มีทางกับไปร่วมมือร่วมแรงกับศัตรูทางการเมืองได้แน่ๆ และที่ฮิลลารีร่วมมือกับโอบามาได้ ก็ไม่เห็นเรื่องแปลกหรือดีเด่นอะไรเกินไป เพราะเขาทั้งคู่ก็พรรคเดียวกันอยู่แล้ว

กลยุทธดึงศัตรูมาเป็นมิตร ธรรมดาๆมากๆสำหรับคนเอเซียอย่างเราๆ

***************
***************

ทีนี้ผมได้ฟังนักวิชาการท่านึงที่มาพูดคุยวิเคราะห์เรื่องการสัมภาษณ์ฮิลลารี ในช่องเนชั่น ผมติดใจเรื่องนึงที่นักวิชาการคนนี้เอ่ยถึง พร้อมยกตัวอย่างกรณีอดีตประธานาธิบดีจอห์ช w บุช ว่า

อดีตปธน.บุช ดำเนินนโยบายผิดพลาดล้มเหลว โดยเฉพาะเรื่องการบุกอิรักและการนำประเทศจนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจสาหัส จนคนอเมริกันพากันเบื่อบุชกันแบบสุดๆ แต่คนอเมริกันก็ไม่ออกมาสนับสนุนให้ปฏิวัติบุช ไม่มีทหารออกมาปฏิวัติบุช คนอเมริกันเขาก็รอจนบุชอยู่ครบวาระ

ฟังเผินๆก็ดูดีนะครับ ท่านนักวิชาการ แต่คุณกำลังพูดกระทบคนกรุงฯใช่มั้ยครับ? (ที่เอาดอกไม้ไปมอบให้ทหารหลัง19ก.ย.)

แต่เราต้องไม่ลืมว่า อดีตผู้นำอเมริกาที่ผ่านๆมา เขามุ่งทำงานเพื่อชาติของเขาเป็นหลัก แม้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่มีใครเจตนาจะให้เกิด ผู้นำอเมริกาทุกคนล้วนทำเพื่อชาติท้งนั้น

แม้แต่บุชเอง เขาก็มีเจตนาเพื่อปกป้องชาติของเขา แม้ในที่สุดนโยบายของเขาจะออกมาล้มเหลวก็ตาม นโยบายบุกอิรักทำให้สหรัฐฯเสียเงิยหลายแสนล้านดอลล่าห์ ทำให้ทหารอเมริกันตายไปนับหมื่นคน

แต่คนอเมริกันเขาก็เข้าใจว่าที่บุชทำไป บุชก็ทำไปเพื่อชาติทั้งนั้น คนอเมริกันเขาไม่มาอาฆาตแค้นบุชจนแทบจะฆ่าบุชหรอกครับ เขาก็แค่เบื่อบุชมากๆก็เท่านั้น เพราะเขารู้ว่าความผิดของบุชมันเป็นความผิดพลาดบนเจตนาดีเพื่อชาติ (คนอเมริกันแค่อยากปารองเท้าใส่หน้าบุชในเกมส์ก็ยังดี555)

แต่สำหรับกรณีของไทย ไทยเราเกิดวิกฤติการเมืองคราวนี้ไม่ใช่เพราะความผิดพลาดของนโยบายของผู้นำ แต่มันเป็นเรื่องของการเห็นผลประโยชน์ส่วนตัวของนักการเมืองมากกว่าประโยชน์ของชาติ

มันเป็นเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรมนักการเมือง มันไม่ใช่แค่ความเห็นทางการเมืองแตกต่างเท่านั้น

.
.
อ่าน ทำไมผมถึงต้านทักษิณ
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม