วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

เสื้อแดงแพ้เพราะอะไร ?(2มาตรฐานจริงหรือ)






คลิกอ่าน สงกราน์เดือดคนกรุงเทพฯไม่เอาเสื้อแดง
.
คลิกอ่าน คนเสื้อแดงมาจากคนกี่พวกกันแน่?
.
เสื้อแดงหลายๆคนคงยังคงตัดพ้อต่อว่า ระบบยุติธรรมของไทยว่า2มาตรฐานอยู่ เช่น "ทำไมทีพันธมิตรไม่จับ ไม่ปราบ ทีเสื้อแดงเช้าก่อเหตุ เย็นโดนจับเป็นต้น"

หากเสื้อแดงยังคิดอยู่แบบนี้ ก็เท่ากับว่า คุณจะไม่มีวันชนะเด็ดขาด เพราะสปิริตแห่งผู้มีใจต่อสู้สปิริตแห่งผู้ชนะก็คือ

"หากเป็นผู้ชนะเขาจะให้เกียรติ์ผู้อื่น แต่หากเขาเป็นผู้แพ้ เขาจะโทษที่ตัวเอง"

การที่จำปฏิบัติภารกิจใดๆจนสำเร็จได้นั้น ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น เวลา โอกาส และกำลัง(ซึ่งรวมถึงคนและทรัพย์) และเหตุผลเป็นต้น

ในกรณีพันธมิตรชุมนุมล้มรัฐบาลสมัครและสมชายนั้น เหตุผลที่เขาอ้างก็คือ ในรัฐบาลสมัคร เหตุผลสำคัญคือ การต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยนช.ทักษิณให้พ้นโทษ

ส่วนรัฐบาลสมชาย ที่ต่อเนื่องจากสมัครก็คือ รัฐบาลนอมินีของนักโทษทักษิณ จนตามมาถึงการถูกทำร้ายจนมีพันธมิตรบาดเจ็บล้มตายตามมาหลายครั้ง

ทั้งการปราบปรามในวันที่7ต.ค.หน้ารัฐสภา หรือการถูกยิงจากระเบิดถูกปาระเบิดในตอนปิดทำเนียบ แต่เสื้อแดงยังไม่มีใครตายเลย แต่คิดก่อการใหญ่เกินตัว

การปิดทำเนียบของพันธมิตรแม้จะผิดแต่ก็มมีที่มาที่ไป และประชาชนก็ไม่ได้เดือดร้อนโดยตรงเท่าไหร่ แต่เป็นความเดือดร้อนของรัฐบาลสมชายมากกว่า ที่ไม่มีที่ทำงาน
.
และที่พันธมิตรต้องปิดทำเนียบเพราะถูกกดดันจากกฏหมายให้ไม่สามารถชุมนุมในท้องถนนได้ เนื่องจากมีโรงเรียนร้องเรียนเสียงรบกวน และเพราะโดนหมายศาลไล่หลายครั้ง
.
และพอไปอยู่ที่ทำเนียบทางพธม.คิดว่าดีแล้ว ปลอดภัยแล้ว แต่ก็กลับโดนยิงระเบิดM79ถล่มใส่จนต้องหนี ไปอยู่สนามบินดอนเมือง (ส่วนสนามบินสุวรรณภูมินั้น ไม่ควรไปอย่างยิ่ง)

การปิดสนามบิน แม้จะเสียหายมาก แต่ก็เป็นความเสียหายที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเสียหายมากเกินจริง เพราะในความเป็นจริง พันธมิตรปิดสนามบินอยู่ไม่นาน จึงไม่ได้เสียหายนับแสนๆล้านตามที่เสื้อแดงชอบอ้าง
(เพราะการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาตร์คาดความเสียหายในกรณีที่หากพันธมิตรปิดยืดเยื้อยาวนาน ก็จะอาจเสียหายมากขนาดนั้น แต่การคาดการณ์นั้นได้อ้างอิงโดยเปรียบเทียบกับปีก่อนในไตรมาสเดียวกัน ซึ่งปีก่อนยังไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นครับ)

ที่สำคัญการปิดสนามบินก็เพราะพันธมิตรโดนลอบยิงด้วยM79 จนมีพันธมิตรตายไปติดๆกัน ทำให้ต้องย้ายสถานที่ไปที่น่าจะปลอดภัยกว่า หรือแม้จะไปอยู่ในสนามบินแล้วก็ตาม ก็ยังถูกยิงด้วยระเบิดอีก แต่โชคยังดีมที่ไม่มีใครตาย

แน่นอนสิ่งที่พันธมิตรกระำทำมันผิดแน่อน แต่มันก็มีเหตุให้พาไป ไม่ใช่จะอยู่ดีๆจะไปปิดทำเนียบหรือสนามบินทันที!

สมัยพันธมิตรเริ่มชุมนุมก็ยังไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก และในสมัยเลิกชุมนุมไปแล้ว วิกฤติเศรษฐกิจโลกก็ยังไม่กระทบถึงเมื่องไทยมากเท่าใดนัก

แต่ในการชุมนุมของเสื้อแดง ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจมากขึ้นแล้ว!!!

********************************

เสื้อแดงไร้ระเบียบวินัย!

ไม่ว่ากองทัพใดๆก็ตาม ระเบียบวินัยของกำลังพลคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่กลุ่มเสื้อแดงไม่สามารถควบคุมยุทธศาสตร์ได้ดีเท่ากับพันธมิตร ปล่อยให้แต่ละกลุ่มดำเนินเกมอย่างสะเปะสะปะ ขาดเอกภาพ เพราะมีความเป็นเอกเทศของแต่ละกลุ่มเอง

เช่นการปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แกนนำบอกว่า ไม่ได้เป็นคนสั่ง แต่กลุ่มแท๊กซี่ทำกันเอง

ที่สำคัญ แกนนำผู้ก่อการจราจลส่วนใหญ่ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ! จึงไม่ค่อยรู้สึกเดือดร้อนหากว่ากรุงเทพฯจะต้องวุ่นวาย ไร้ความสงบ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เป็นพวกเกเรที่ไร้การศึกษามาก่อการซะเป็นส่วนมาก

***************************

เสื้อแดงพึ่งพาทุนจากทักษิณมากไป

การที่ผู้ร่วมชุมนุมเสื้อแดงส่วนใหญ่ได้รับการพามาจากต่างจังหวัด อาจโดยหัวคะแนน หรือสส.พรรเพื่อไทยพาเข้ามา ซึ่งเป็นคนจนซะเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มเสื้อแดงจึงขาดกำลังทรัพย์ที่จะดำเนินการอย่างยาวนานเหมือนพันธมิตร เพราะพันธมิตรมาจากคนชั้นกลางและคนรวยเสียเยอะ จึงมีกำลังทรัพย์สนับสนุนให้ต่อสู้อย่างยาวนานได้ จึงไม่ต้องรีบเผด็จศึกแบบเสื้อแดง

การพึ่งพาทุนทักษิณมากไปนั้นย่อมเป็นเรื่องค่อนข้างเป็นจุดด้อย เพราะทักษิณเป็นคนใจร้อน และคิดแบบนักลุงทุนเก็งกำไร ที่ต้องการเห็นผลประกอบการไวๆ คืนทุนไวๆ ทำให้เร่งเอาชนะ เพื่อเซฟงบประมาณไม่ให้บานปลาย จึงเร่งร้อนเพื่อจะเอาชนะ

ความรีบร้อนจะเอาชนะ จึงต้องเพิ่มการปลุกระดมเพื่อให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น เพื่อเพิ่มความกดดันให้รัฐบาล หรืออาจจะเพื่อยั่วยุให้ทหารออกมาใช้ความรุนแรงเหมือนการปราบปรามที่ผ่านๆมาในอดีต

แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด รัฐบาลมาเนิบๆช้า จนดึงใจคนส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯได้ ทหารไม่รุนแรงเหมือนอดีต สุดท้าย ทักษิณกับเสื้อแดง จึงโดนดาบนั้นคืนสนองเสียเอง

*****************************

เสื้อแดงไม่มีเป้าหมายที่ดีพอ เป้าหมายสูงเกินไป

การที่เสื้อแดงเริ่มจากเรียกร้องแค่ให้รัฐบาลยุบสภา แต่ก็มาเปลี่ยนเป้าหมายกลางคัน โดยไปเพิ่มเป้าหมายที่บังคับให้รัฐบาลไม่สามารถถอยให้ได้ ก็คือ

การเรียกร้องให้องคมนตรี3คนลาออกนั้น เป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่และรัฐบาลเอง ก็คงยอมให้ไม่ได้ ทำให้สูญเสียแนวร่วมที่เริ่มคิดได้ไปจำนวนมาก

ที่จริงนี่ยังดีนะ การที่ทักษิณยังพยายามบอกว่าตัวเองยังจงรักภักดีอยู่ เพราะยังพอหลอกคนไทยโง่ๆอีกจำนวนหนึ่งได้อยู่ เมื่อเสื้อแดงที่ไม่จงรักภักดีฯที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงด้วยกันเองยอมลดระดับมาที่องคมนตรีแทน แทนที่จะดีขึ้น กลับแย่ลง เพราะ
.
แน่นอนคนฉลาดที่อาจหลงไปอยู่เสื้อแดงเริ่มคิดได้ เพราะการล้มองคมนตรีก็เท่ากับกระทบชิ่งไปที่สถาบันสูงสุดเช่นกัน แม้จะพยายามอ้างว่าไม่เกี่ยวก็ตาม
.
(คลิกอ่าน การโจมตีองคมนตรีคือแผนชั่วมากกว่าที่คิด)

แต่มันอ้างไม่ขึ้นหรอกครับ คงอ้างได้แต่คนที่โง่เท่านั้น! ย้ำโง่เท่านั้น!

********************************

จะล้มรัฐบาลต้องซื้อใจคนกรุงเทพฯให้ได้ก่อน

เพราะรัฐบาลตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ หากซื้อใจคนกรุงเทพฯได้ ก็สำเร็จไปกว่าครึ่ง เหมือนตอนพฤษภาทมิฬ ที่เรียกในตอนนั้นว่า ม็อบมือถือ ที่มีคนกรุงออกมาสนับสนุนมาก สุดท้ายรัฐบาลก็ต้องแพ้

แต่ทฤษฎีนี้เกือบจะใช้ไม่ได้แล้ว เพราะดูจากการชุมนุมของคนนับแสนในวันที่8 เม.ย. ที่ผ่านมา ก็ทำเอารัฐบาลก็เสียวๆอยู่เหมือนกัน หากคนที่มาชุมนุมนับแสนสามารถอยู่ได้หลายๆวัน และถ้าเสื้อแดงไม่ได้ยื่นข้อเสนอสูงเกินไป ชัยชนะของเสื้อแดงก็มีทางเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน

และเวลามันไม่อำนวย เพราะใกล้เทศกาลสงกรานต์ที่หยุดยาว ที่คนต่างจังหวัดส่วนใหญ่ก็อยากกลับบ้าน คนกรุงเทพฯก็อยากเที่ยวสนุก แต่เมื่อโอกาสไม่อำนวย เสื้อแดงจึงค่อนข้างจนตรอก จึงเริ่มเร่งร้อนก่อการใหญ่ ปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ!

หัวใจของการคมนาคมกรุงเทพฯ เพราะหากอนุสาวรีย์ชัยเกิดเหตุขึ้น ก็เดือดร้อนไปทั้งกรุงเทพฯ โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆหลายๆแห่งก็อยู่แถวนั้นด้วย โอย! เสื้อแดงเริ่มแพ้ก็จากจุดนั้นแหล่ะครับ

ต่อมายังก่อการป่วนกรุงอีกหลายๆจุด เล่นเอาคนกรุงเทพฯระอาหวาดกลัว เกลียดชัง เซ็ง ในที่สุดทุกอย่างจึงเข้าทางรัฐบาล ประกอบกับทหารมาเหนือชั้นกว่า ไม่โหดร้ายเหมือนที่ผ่านมา ความพ่ายแพ้จึงมาหาคนเสื้อแดงในที่สุด

***************************

เอาชนะใจคนกรุงอย่างเดียวไม่พอ ต้องเอาชนะใจสื่อให้ได้ด้วย

ไม่ใช่เฉพาะสื่อไทยเท่านั้น แต่ในยุคดิจิตอลไร้ขอบเขต สื่อต่างชาติก็สำคัญไม่แพ้กัน

เสื้อแดงทุบรถนายกฯอภิสิทธิ์ที่พัทยา ตามมาด้วยไปล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา 2เหตุการณ์นี้ มีสำนักข่าวต่างประเทศเห็นเหตุการณ์โดยตลอด ที่สำคัญผู้นำต่างชาติและผู้ติดตามต่างหวาดกลัวหนีหัวซุกหัวซุน

ทำให้ตรงจุดนี้ เสื้อแดงได้ทำลายภาพพจน์ของตัวเองอย่างจัง หากจะชุมนุมประท้วงก็ประท้วงไป แต่การล้มการประชุมนั้นเกินขอบเขตไปแล้ว ไม่มีชาติใดยอมรับได้หรอกครับ อย่าคิดในมุมของตัวเองมากเกินไป

เมื่อคิดในมุมของตัวเองมากไป สุดท้ายก็เทากับฆ่าตัวตาย ในวันนั้น สื่อต่างชาติต่างรายงานออกไปทั่วโลก นักข่าวต่างชาติก็ตกใจในสถานกาณ์เช่นกัน ทำให้เมื่อสื่อต่างชาติเริ่มมีทัศนะคติไม่ดีกับเสื้อแดงเสียแล้ว ก็ทำให้การนำเสนอข่าวเข้าข้างรัฐบาลอภิสิทธิ์จะได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่าจากกลุ่มเสื้อแดง
.
นอกจากจะไม่สามารถซื้อใจสื่อได้แล้ว ยังสร้างความหวาดกลัวกับผู้นำต่างชาติด้วย ถึงขนาดมีภรรยาผุ้นำคนนึงนั่งร้องไห้ตัวสั่น)
.
คลิกอ่านมติชน สื่ออังกฤษBBCจวกทักษิณต้นเหตุแตกแยก

***********************

เสื้อแดงทะเลาะกับสื่อไทยเองด้วย

ในเช้าวันที่13เม.ย. กลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจการนำเสนอข่าวจากสื่อไทย จนมีใครสักคนหรือหลายคนในเสื้อแดงที่แสดงอาการไม่พอใจ และบอกว่าจะไม่รับรองความปลอดภัยให้กับสิ่อที่ประจำที่ทำเนียบ ทำให้นักข่าวหรือสื่อทีวีทุกช่องถอนออกจากหน้าทำเนียบทันที

และแม้เช้าวันต่อมาแกนนำเสื้อแดงจะขอร้องให้สื่อกลับมา พร้อมรับรองความปลอดภัยให้ แต่ก็ไม่เป็นผลซะแล้ว ไม่มีสื่อกลับไปหน้าทำเนียบอีกเลย จนกระทั่งเสื้อแดงเลิกชุมนุมในทีสุด

*****************************

แพ้เพราะปากทักษิณเอง?

กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเหมิอนกบอยู่ในกะลา เพราะเชื่อแต่แกนนำจนบางคนไม่ได้สนใจข่าวสารจากโลกภายนอก เชื่อที่ทักษิณและแกนนำพูดทุกอย่าง เชื่อว่ากำลังชนะแล้ว

การวีดีโอลิงค์หรือการโฟนอินของทักษิณ ไม่ใช่เฉพาะผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ฟังเท่านั้น สื่อทั่วโลกก็ให้ความสนใจไม่น้อย พวกเขาแปลคำพูดทักษิณทุกคำเช่นกัน และทักษิณก็กลายเป็นนักปลุกระดมในสายตาสื่อต่างชาติไปเสียแล้ว

ทักษิณอาจหลอกคนเสื้อแดงได้ แต่ทักษิณหลอกสื่อต่างชาติไม่ได้ เพราะมันฟังไม่ขึ้นเลยว่า ทักษิณอ้างประชาธิปไตย โดยไม่สนสภาพที่แท้จริงที่เกิดขึ้นของประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ

ในยามนี้ไม่ว่าใครก็ตามต้องหันมาร่วมมือกันเพื่อช่วยชาติให้พ้นปัญหาเศรษฐกิจ แต่ทักษิณกลับก่อการให้คนไทยแตกแยกโดยอ้างแค่ประชาธิปไตยที่แท้จริงจะทำให้ทุกคนรวยได้ ประชาธิปไตยของทักษิณกินได้!?

คนจนคนรากหญ้าก็เชื่อทักษิณไป แต่สื่อต่างชาติเขาบอกว่าตลก เพราะหากประชาธิปไตยกินได้ ทำให้รวยได้จริงๆ ป่านนี้โลกเกือบทั้งโลกคงมีแต่คนรวย อเมริกาก็คงไม่เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจหนักแบบนี้ หรือฟิลิปปินส์ก็คงรวยที่สุดในอาเซียนเป็นต้น

ยิ่งเมื่อทักษิณพูดว่า "ถ้าผมแพ้ ประชาชนก็จะแพ้ ประเทศชาติก็จะแพ้" นั้น พอสื่อต่างชาตินำไปแปล ไปวิเคราะห์

สื่อทุกชาติเขาคงรู้สึกตลกว่า ทำไมหนอคนเสื้อแดงถึงเชื่อกับคำพูดบ้าๆนี้ได้เน๊อะ!

ยิ่งพอเสื้อแดงก่อจราจล ทักษิณยังโกหกสื่อต่างชาติเพิ่มอีกว่า ทหารฆ่าประชาชน ยิ่งไปกันใหญ่ ทักษิณได้ฆ่าตัวตายในสื่อโลกไปแล้ว!

ทักษิณอาจหลงคิดไปว่า สื่อต่างชาติคงมีสมองเหมิอนคนเสื้อแดงที่รักเขาก็เป็นได้ ที่พูดอะไรก็มีแต่คนเฮ พูดอะไรไปก็มีคนเชียร์ เรียกว่า ทักษิณลืมตัวไปแล้วมั้ง เคยชินกับคำโกหกซะเคยตัว เหมือนกับที่ทักษิณเคยพูดว่า

" หากมีเสียงปืนของทหารเมื่อใด ผมจะกลับมานำขบวนคนเสื้อแดงเอง"

แต่เมื่อสำนักข่าวอัลจาซีราถามว่าจะกลับประเทศแล้วใช่มั้ย เพราะทหารปราบประชาชนแล้ว ทักษิณกลับบ่ายเบี่ยงที่จะตอบว่า จะกลับทันที!?
.
คลิกอ่าน ทักษิณดวงดีหรือดับขึ้นอยู่กับทักษิณเอง

************************

เสื้อแดงไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตยที่แท้จริงจริงดีพอ?

คนเสื้อแดงยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยที่แท้จริง จึงกลายเป็นเหยื่อให้ถูกหลอกใช้ พวกเขาเชื่อแค่ว่า ประชาธิปไตยแบบทักษิณจะทำให้พวกเขาอยู่ดีกินดี พวกเขาฝันไปไกลว่าจะเป็นแบบสิงคโปร์ หรือเกาหลีใต้

แต่พวกเขาแทบไม่รู้จัก2ประเทศที่เขาฝันอยากเหมือนเลยว่า หนทางความสำเร็จของ2ชาตินี้ ไม่ใช่เพราะประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
(ผมคงไม่ต้องอธิบาย เพราะบทความเก่าๆของผมเขียนอธิบายไว้หลายครั้งแล้ว)

คนเสื้อแดงฝันถึงสิงคโปร์ เกาหลีใต้ แต่ไม่เคยมองไปที่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย หรือ พม่าเลย ว่าทำไมทั้ง3ประเทศยังเป็นแบบนั้น

พม่าทำไมถึงได้เป็นเผด็จการทหาร เพราะอะไร ทำไม?

ทำไมฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ถึงยังยากจน ทั้งๆที่เป็นประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐแท้ๆ ทำไม?

หากมองข้ามทวีป ทำไมเม็กซิโกก็ยังยากจน ทั้งๆที่เป็นประชาธิปไตยและอยู่ติดกับอเมริกา?

ผมไม่จำเป็นที่ต้องยกตัวอย่างที่มีอีกมากในโลกนี้ เพราะหากเพียงแค่นี้คนเสื้อแดงยังคิดไม่ได้ ประเทศไทยก็คงไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงได้แน่ๆครับ

********************************

ขอกลับมาที่เรื่อง2มาตรฐานอีกครั้ง
.
การที่เสื้อแดงถูกจับง่าย เสื้อเหลืองถูกจับยาก ผมว่า ไม่ใช่เรื่อง2มาตรฐานหรอกครับ แต่มันอยู่ที่มันสมองของผู้ก่อเหตุมากกว่า
.
คนเสื้อแดงก่อเหตุแบบถ่อยๆ เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีได้ง่าย แต่เสื้อเหลืองก่อเหตุที่อิงกฏหมายตลอด เอาผิดได้ แต่จะเอาผิดได้แค่ไหน ก็คงให้เวลาเจ้าหน้าที่ศึกษา เพราะจะจับต้องให้รัดกุม เพราะหากไม่รัดกุม เดี๋ยวจะหลุดได้ หรือจะเอาผิดได้ไม่เต็มที่
.
ที่สำคัญ นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเมืองไทยแล้ว แต่ก็ยังไม่มาติดคุก ทั้งๆที่ถึงที่สุดของคดีแล้ว อย่างงี้เรียกว่า2มาตราฐานมั้ยครับ?
.
ที่จริงประเทศไทยไม่ใช่มีแค่2มาตรฐาน แต่มีหลายมาตรฐานครับ เช่น"คนรวยติดคุกยาก แต่คนจนติดคุกง่าย"จริงมั้ยครับท่านผู้อ่าน ฮิฮิ!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม