วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มาตรา112 ที่รัก !!






มั้ยครับ กับชื่อบทความของผมในตอนนี้?

ผมแนะนำคุณผู้อ่านว่า ยังไม่ต้องไปยึดติดกับความหมายชื่อบทความตอนนี้มากนัก

แต่ก่อนจะเข้าเรื่องมาตรา112 ผมมีเรื่องนึงอยากจะเขียนอยากจะเล่านานแล้ว

นั่นคือเรื่อง หญิงสาวมาเลเซีย ดื่มเบียร์ในที่สาธารณะ โดนศาลสั่งเฆี่ยน!!

ผมขออนุญาตเล่าคร่าวๆเท่าที่พอจะจำได้นะครับ

เมื่อ2-3ปีก่อนที่มาเลเซีย นางการ์ติก้า ซารี เดวี ซูการ์โน ถ้าจำไม่ผิดเธอได้ไปแต่งงานกับคนสิงคโปร์และใช้ชีวิตทำมาหากินที่สิงคโปร์อยู่หลายปี

พอผ่านไป5ปี เธอกลับมาเลเซีย ทีนี้เธอเกิดลืมตัว ลืมกฎหมายบ้านเกิดคือมาเลเซียไปชั่วคราว เธอดันเผลอตัวดื่มเบียร์ในที่สาธารณะคือที่โรงแรมแห่งหนึง ซึ่งกฎหมายมาเลเซียอิงจากกฎหมายอิสลาม มีกฎหมายห้ามผู้หญิงดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ เธอเลยโดนศาลตัดสินให้ถูกเฆี่ยน6ที แถมโดนปรับอีก5พันริงกิต

ทีนี้ปัญหาก็คือ เธอเคยเป็นนางแบบมีชื่อเสียงในสิงคโปร์ ข่าวมันเลยดังไปทั่วโลก

ทำให้พวกองค์กรสิทธิเสรีภาพสากล องค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือพวกปกป้องสิทธิมนุษยชนอะไรพวกนี้ทั้งหลาย พอได้ข่าวเรื่องที่เธอจะโดยเฆี่ยนเพราะเหตุจากดื่มเบียร์ พวกสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย ก็ไม่พอใจ หาว่าางการมาเลเซียละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

แต่เรื่องนี้ที่ไม่ธรรมดา และเจ๋งมากๆ!! ทำให้ผมอยากเล่าให้คุณผู้อ่านของผมฟังก็คือ

นางการ์ติก้า เธอออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเผยแพร่ไปทั่วโลกว่า องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย พวกคุณกรุณาอย่าเสือกเรื่องกฎหมายอิสลามของมาเลเซีย เพราะเธอเคารพกฎหมายของประเทศเธอ

นางการ์ติก้า เธอยอมรับผิดและพร้อมรับการลงโทษด้วยการเฆี่ยนจากทางการมาเลเซียด้วยความเต็มใจ เพื่อรักษากฎหมายอิงหลักอิสลามที่เธอเองก็เคารพให้ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป

แม้แต่พ่อของเธอ ก็ออกมาปกป้องกฎหมายของประเทศเช่นเดียวกัน โดยพ่อของเธอบอกว่า เขาเลี้ยงลูกมาให้เป็นคนที่เคารพกฎหมาย เคารพหลักศาสนา เมื่อลูกของเขาทำผิด ลูกเขาควรได้รับการลงโทษ

ฉะนั้นพวกองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆที่พยายามจะช่วยลูกของเธอ กรุณาอย่าเสือก!!

ทีนี้ทางการมาเลเซีย ปกติก็ลงโทษประชาชนตามกฎหมายอิสลามมาหลายคดีจวบจนบัดนี้ แต่พอคดีของนางการ์ติก้า เกิดดังไปทั่วโลก มาเลเซียก็เกิดอาการหน้าบางจากเหตุผลอะไรไม่แน่ใจ เกิดกลัวเสียงวิจารณ์จากนานาชาติขึ้นมา เลยตัดสินใจยกเลิกการเฆี่ยนนางการ์ติก้าไปแบบกะทันหัน!!

ตามข่าวนี้ครับ ลองอ่านดู

มติชนออนไลน์

มาเลย์ปล่อยตัวหญิงดื่มเบียร์ดื้อๆไม่ยอมเฆี่ยน-เจ้าตัวไม่ยอม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ว่า รัฐปาหังของมาเลย์ได้ปล่อยตัวนางการ์ติก้า ซารี เดวี ซูการ์โน วัย 32 ปี ซึ่งถูกตัดสินโทษจากศาลศาสนาให้ถูกเฆี่ยน 6 ที จากกรณีดื่มเบียร์ โดยรถที่นำเธอไปเรือนจำนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์เมืองหลวง เพื่อส่งตัวให้เธอรับโทษโบย ได้หยุดนิ่งเป็นเวลานับชม.ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางส่งเธอกลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐปาหังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางการไม่สามารถทำตามหมายจับและคำสั่งศาลได้ในขณะนี้ และว่าทางการได้ปล่อยตัวเธออย่างเป็นทางการแล้ว

อย่างไรก็ตาม นางการ์ติก้ายังไม่ยอมลงจากรถ โดยเจ้าตัวบอกว่า เธอต้องการให้ทางการตัดสินออกมาว่า เธอผิดหรือถูกแน่ ซึ่งก่อนหน้านี้ เธอได้ปฎิเสธที่จะอุทธรณ์คดี และท้าให้ทางการรัฐปาหังลงโทษโบยเธอต่อหน้าสาธารณชน

ด้านนายชูการ์โน มูตาลิบ บิดานางการ์ติก้า วัย 60ปี แสดงปฎิกิริยาไม่พอใจต่อการปล่อยตัวลูกสาวของเขาโดยไม่ให้รับโทษ บอกว่า ลูกสาวของเขาต้องการรับโทษตามคำตัดสิน และเขาคิดว่าหากรัฐปาหังไม่ยอมทำ เรื่องนี้จะกระทบต่อศาสนา พร้อมทั้งเตือนว่าอย่าเอาลูกสาวของเขามาเป็นเครื่องเล่นทางศาสนา

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ ทางการรัฐปาหังได้ควบคุมตัวนางการ์ติก้าที่บ้านพัก ท่ามกลางปฎิกิริยาประท้วงของผู้เห็นใจนางการ์ติก้ากว่า 50 คน ที่ชุมนุมหน้าบ้านเธอ

---------------------------

จากข่าวหญิงมาเลย์คนนี้ เราได้ข้อคิดอะไรครับ?

สำหรับผมได้ข้อคิดมากๆ และเอามาเปรียบเทียบกับกรณีมาตรา112 ได้พอควร

คือบ้านเมืองแต่ละประเทศ เขาก็มีกฎหมาย มีจารีตประเพณีที่แตกต่างกันไป หากเราไปบ้านเมืองใด เราก็ควรให้ความเคารพกฎหมายของบ้านเขา จริงมั้ยครับ?

แบบนี้ถึงจะเรียกได้ว่า เราเป็นผู้มีวัฒนธรรมที่ดี เคารพในความเชื่อ เคารพศรัทธาในศาสนาวัฒนธรรมประเพณีของคนอื่น

อย่างบ้านเราเองก็มีจารีตประเพณีเช่นกัน เราเองก็อยากให้ใครที่มาเที่ยวบ้านเรา ให้ความเคารพประเพณีและวัฒนธรรมของเราจริงมั้ยครับ

อย่างในมาเลเซียยังมีกฎหมายแปลกๆที่เราคาดไม่ถึงอีกหลายอย่าง อย่างเช่น ห้ามเด็ดทำลายดอกชบา ในที่สาธารณะ ห้ามเหยียบดอกชบาที่ตกลงบนพื้น เพราะดอกชบา (บุหงารายา) เป็นดอกไม้ประจำชาติของมาเลเซีย ถ้าใครฝ่าฝืนอาจโดนจำคุกได้เลยนะครับ

------------------------

ห้ามขายหมากฝรั่งในสิงคโปร์

กรณีห้ามขายหมากฝรั่งในสิงคโปร์ คือตัวอย่างที่ยกแล้วจะเห็นภาพมากที่สุด

ถ้าคุณชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นชีวิตจิตใจ ก็ไม่ควรไปสิงคโปร์นะครับ เพราะหมากฝรั่งเป็นสินค้าต้องห้ามในสิงคโปร์

แบบนี้เราจะไปบอกว่า สิงคโปร์ละเมิดสิทธิเสรีภาพก็ไม่ได้ เพราะนี่คือกฎหมายบ้านเขา ซึ่งเราต้องเคารพ ถ้าคุณไม่ชอบกฎหมายของเขา ก็อย่ามาบ้านเขา ก็อย่ามาเที่ยวบ้านเขา อย่ามาอยู่บ้านเขาสิครับ จริงมั้ย?

(สิงคโปร์ กับมาเลเซีย มีกฎหมายห้ามคนในประเทศ แต่งตัวเป็นกระเทย หรือรักร่วมเพศด้วยครับ มีโทษรุนแรงมากด้วย)

---------------------------



กฎหมายหมิ่นประมาท เมื่อเทียบกับ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ประชาชนทุกคนยังมีกฎหมายหมิ่นประมาท เพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิเสรีภาพของตัวเอง ใครมาด่าเรา ทำให้เราเสียหาย เราก็ฟ้องร้องดำเนินคดีคนๆนั้นไป

ก่อนอื่นเราต้องดูกฎหมายหมิ่นพระบรมเดาชานุภาพกันก่อน

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

องค์ประกอบความผิด
หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โดยเจตนา

ที่สำคัญที่อยากจะให้ทุกคนรู้ก็คือ ยังมี มาตรา 133 ใช้คุ้มครองพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาทต่างประเทศ ที่เสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยด้วยนะครับ  ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 134 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เช่น ถ้าจักรพรรดิญี่ปุ่น หรือมกุฏราชกุมารของญี่ปุ่น มาเยือนไทย แล้วใครก็ตามมาดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระองค์ ก็จะโดนมาตรา 133 เอาผิดเช่นกันครับ

ดังนั้น กฎหมายไทยไม่ได้คุ้มครองเฉพาะองค์พระประมุขของไทยเท่านั้น แต่ยังคุ้มครองประมุขและผู้แทนรัฐจากต่างประเทศด้วย แต่พวกล้มเจ้าก็จะเลี่ยงไม่ยอมพูดถึงมาตรา 133 และ 134 นี้


ทีนี้มาดูกฎหมายหมิ่นประมาทของประชาชนบ้าง

1.การหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.1หมิ่นประมาท มาตรา 326 โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.2.หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา มาตรา 328 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท
1.3. หมิ่นประมาทซึ่งหน้า มาตรา 393 ซึ่งอยู่ในหมวดลหุโทษ เป็น "การดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา" มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. การหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน มาตรา 136 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.การหมิ่นประมาทศาล มาตรา 198 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

------------------

แค่หมื่นประมาทบุคคลธรรมดาทั่วไป ยังมีโทษถึงขั้นติดคุกได้

แล้วถ้าหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา112 จะไม่ให้มีติดคุกหรืออย่างไร?

ถ้าเราคนไทยยังปล่อยให้ไอ้พวกชั่วและพวกโง่ มายกเลิกมาตรา112 ไปแล้ว พระมหากษัตริย์ก็จะไม่มีอะไรคุ้มครองพระองค์

หรือถ้าจะให้พระมหากษัตริย์ มาใช้กฎหมายหมิ่นประมาทแบบเดียวกับประชาชน คุณผู้อ่านว่า มันถูกต้องสมควรแล้วเหรอ?

ถ้าใครด่า อาฆาต มาดร้าย ใส่ความ ป้ายสี พระมหากษัตริย์ จะต้องให้พระองค์ต้องทรงมาลงสู้คดีเองหรือครับ?

ยิ่งพวกล้มเจ้ามันมีมากมายในยุคนี้ เพราะสัตว์นรกมันกลับชาติมาเกิดกันเยอะ มันจะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกันเป็นพันเป็นหมื่นคดี แล้วเราจะให้ในหลวงต้องทรงลงมาปกป้องพระองค์ ด้วยการสู้คดีทุกคดีเหรอครับ?

และถึงแม้จะเปิดโอกาสให้ สำนักพระราชวังส่งตัวแทนมาสู้คดีแทนพระองค์ก็ตาม แต่คุณผู้อ่านคิดว่า มันสมควรให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรือครับ?

-----------------------

สถาบันพระมหากษัตริย์ คือสถาบันหลักของชาติ แม้แต่ธงชาติไทย เรายังไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่เลยครับ

ฉะนั้น ก็มีแต่พวกเลวอ้างสิทธิเสรีภาพบ้าบอคอแตกเท่านั้น เอามาใช้หลอกคนไทยโง่ๆ เพื่อให้เรียกร้องสิทธิชั่ว ๆ แต่พวกเลวมันไม่เคยบอกเรื่องหน้าที่พลเมืองให้คนไทยโง่ ๆ ได้รู้เลยว่า

หน้าที่พลเมืองที่ดี ต้องปกป้องสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ถ้าการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพใดๆ หากเป็นการละเมิดหน้าที่พลเมืองที่ดี สิทธิเสรีภาพนั่นคือสิ่งที่ผิด เป็นสิทธิเสรีภาพที่เกินขอบเขตครับ

คนไทยส่วนใหญ่มักไม่รู่ว่า หน้าที่ต้องมาก่อนสิทธิเสมอ หากยังไม่ทำหน้าที่พลเมืองที่ดี ก็ย่อมไม่มีความชอบธรรมที่จะมาเรียกร้องขอสิทธิ

พวกบัฟฟาโร่แดง ส่วนใหญ่มันไม่รู้ว่าพวกมันกำลังเป็นเหยื่อของไอ้พวกล้มเจ้า พวกคอมมิวนิสต์หลงยุค พวกสังคมนิยม ที่แอบอ้างประชาธิปไตยมาบังหน้าหากินเท่านั้น

ถ้าการวิจารณ์ในหลวงอย่างสร้างสรรค์ มีเหตุผล ในหลวงท่านทรงเคยตรัสว่า สมควรทำด้วยซ้ำ

ปัญหาก็คือ พวกเลวสันดานชั่ว มันใส่ร้ายป้ายสี หยาบคาย เหยียบย่ำสถาบันนี่แหล่ะครับ พวกมันถึงคิดจะล้มมาตรา112

แต่เป้าหมายของพวกมันจริงๆแล้ว สูงกว่ามาตรา112 เพราะพวกมันต้องการเปลี่ยนระบอบเลยครับ

------------------------

มาตรา112 ปกป้องสถาบันที่เราเคารพรักและเทิดทูน

ขนาดคนธรรมดายังมีกฎหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง

แล้วพ่อเจ้าอยู่หัวอันเป็นที่รักของข้าแผ่นดินลูกแผ่นดินอย่างพวกเรา จะมีกฎหมายปกป้องคุ้มครองพระองค์ท่านไม้ได้เชียวรึ ?

สถาบันกษัตริย์ คือสถาบันหลักสูงสุด 1 ใน 3 ของชาติ การมีกฎหมายทีมีบทลงโทษแรงกว่าสามัญชน ก็เป็นเรื่องธรรมดา

หากใครไม่ชอบกฎหมายมาตรา112 นี้ ไม่ชอบสถาบันกษํตริย์ วิธีง่าย ๆ คุณก็แค่ออกไปจากแผ่นดินนี้สิครับ จะหน้าด้านทนอยู่ในประเทศนี้ ทำไม เพราะ...

-------------------------

โปรดทราบ!!

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

http://imgur.com/KE5pbCm

คลิกอ่าน ประธานาธิบดีสหรัฐฐานันดรเทียบเท่านายกรัฐมนตรีอังกฤษ!!


24 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ13 ธันวาคม, 2554 11:23

    อากงsmsเป็นเพียงเหยี่อชิ้นโตเพื่อล่อให้บรรดานักสิทธิมนุษย์โง่ๆ่นักวิชาการบ้องตื้นบางคนหลายคนมารุมทึ้ง ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าพวกนี้เป็นเครื่องมือเพื่อใช้เขย่าสั่นคลอนรากเหง้าที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจคนไทยทุกคนมาอย่างช้านาน อันได้แก่สถาบันพระมหากษัตริย์ีที่อยู่คู่ประเทศไทยมานับพันๆปีผ่านช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์ แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังยึดมั่นจงรักภักดีต่อพระองค์่ท่าน ซึ่งในที่สุดก็ค่อยๆเหี่ยวแห้งแปลงร่างแฝงตัวไปกับสังคมไทยก่อนจะมาเผยร่างให้เห็นในยุคปัจจุบันโดยการนำของอดีตนายกมาผสานกับอุดมการ์ณเดิมๆตกผลึกมาเป็นพรรคการเมือง ขบวนการเสื้อแดง หมู่บ้านเสื้อแดงและมวลชนคนเสื้อแดง ที่มีทั้งนักวิชาการอย่างเป็นระบบ ปชชที่เป็นฐานให้หาได้รู้เ่ท่าทัีนไม่เพราะหลงใหลได้ปลื้มกับประชานิยมประชาธิปไตยกินได้อย่างน่าอดสู ความต้องการสูงสุดของอดีตนายกที่ต้องการกลับมาหาใช่เพียงไร้ความผิดเพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วต้องมีผู้ต่อต้านแน่นอน คืออะไรแน่นอนย่อมต้องการกลับมายิ่งใหญ่โดยไร้ผู้ต้านก็คือสร้างประเทศใหม่แยกดินแดนตัวอย่างที่ได้ยินชัดก็อย่างนครสุวรรณภูมิมาแล้ว เป็นการบ่มเพาะความแตกแยกไปเรื่อยๆบ่อยๆและจะมีมาให้เห็นอย่างแน่นอน ผ่านเครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ มีกองกำลังพร้อมอาวุธครบมืออย่างที่ปรากฏตัวให้เห็นในคราวจลาจล53 ภาคปชชที่แตกแยกก็มีให้ได้ยินแล้วว่าพร้อมรบ ซึ่งตัวผมเองก็เชื่อว่าสงครามปชชเมื่อถึงที่สุดคงยากหลีกเลี่ยง ก็ขอตอบได้ว่าพร้อมกำจัดเสี้ยนหนามแผ่นดินเหมือนกันโว้ย

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ13 ธันวาคม, 2554 20:48

    ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างจิต

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ15 ธันวาคม, 2554 05:59

    บทความสำหรับพัฒนาความคิด บนความแตกต่างที่ไม่แตกแยก??????????

    ตอบลบ
  4. ตอบคุณข้างบน ถ้าคุณอ่านให้แตก เหมือนที่คนมีความรู้อ่าน คุณจะรู้ว่า บทความผมปกป้องสถาบันฯ เป็นหลัก

    ถ้าฝ่ายไหนแม้ความคิดทางการเมืองต่างกัน แต่ยึดหลักปกป้องสถาบัน ก็เป็นเพือนกันได้ นี่คือความไม่แตกแยก

    แต่ถ้ามันผู้ใดมีเจตนาทำลายสถาบัน ผมพร้อมแตกแยกครับ ฉลาดขึ้นแล้วนะ!!

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ15 ธันวาคม, 2554 13:16

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่เขียนให้อ่าน ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้อ่านบ้างนะครับ

    ตอบลบ
  6. หมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป ยังให้ติดคุก
    หมิ่นประมาณบุคคล ทีมีคุณาปการอย่างเอนกอนันต์ต่อประเทศ ทั้งยังเป็นที่รักของคนส่วนมากในประเทศนี้..จะให้ปล่อย ไปเฉย ๆ หรือ...

    การดูหมิ่นคนที่เรารัก โดยทั่วไป เราก็ต้องต่อสู้ให้อยู่แล้ว
    แล้วหากการหมิ่นสถาบัน และ พระองค์ท่าน เราไม่อาจนิ่งเฉย และ ไม่อาจทนดูได้...

    คงต้องได้ข้ามศพกันก่อนหล่ะ

    เป็นการเขียนที่ ตอบความในใจที่กำลังก่อตัวอยู่ กำลังหาวิธีที่จะเขียนแบบเดียวกันนี้ เพื่อการสื่อในแนวทางนี้)

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ15 ธันวาคม, 2554 21:31

    บอก UN ว่าไม่ยุ่งเรื่องของชาวบ้านเขาสักเรื่องจะได้ไหม

    แล้วก็บอกไอ้ทาสรับใช้ไอ้แมลงสาปหน้าเหลี่ยม (จัด) ด้วยว่า

    ไม่ต้องเหลี่ยมจัดตามพ่อมันก็ได้นะ ถ้ายังอยากเป็นคนไทย และอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอยู่ ก็ช่วยทำตามกฎ กติกา มารยาท ศีลธรรม จรรยาบรรณ ของ "ประชาชนคนไทย" ที่มี "พระมหากษัตริย์พระนามภูมิพลฯ" เป็นประมุข เป็นผู้ปกครองประเทศไทย และประชาชนคนไทย

    แต่ถ้า "ไอ้พวกประชาชนคนเสื้อแดง" มันอยากได้ "ไอ้แมลงสาปหน้าเหลี่ยม (จัด)" มาเป็นประมุข เป็นผู้นำ ผู้ปกครองพวกมันนักล่ะก็ ช่วยกันอพยพไปอยู่กับมันที่มอนเตฯ, เขมร, บูรไน ฯลฯ แต่ไม่ใช่ที่ผืนแผ่นดินไทย ก็อยากจะดูเหมือนกันว่ามันจะปกครองกันยังไง

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ17 ธันวาคม, 2554 00:07

    ขอบคุณสำหรับข้อเขียนที่่กินใจ ขออนุญาตแชร์นะคะ

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ17 ธันวาคม, 2554 17:34

    เอาง่ายเลยนะค่ะ ถ้าใครที่ไม่พอใจที่ประเทศนี้มีพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักของประชาชน เชิญย้ายโคตรพ่อโคตรพ่อตระกูลเถ้ากระดูกบรรพบุรุษของมึงออกจากประเทศนี้ซะแล้วย่ามาเหยียบที่นี่อีก มันง่ายมากเลยง่ายมากกว่าที่จะมาแก้กฏหมายอะไรแบบนี้

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ22 ธันวาคม, 2554 14:29

    ขอบคุณค่ะที่เขียนให้อ่านแบบเข้างา่ยๆ มีประโยช์สำหรับคนไทย อยากให้คนไทย ที่ยังงมโข่ง อา่นกันมากๆค่ะเพื่อตาจะสว่างกันมั้ง.
    คนคนเดียวทำให้ประเทศและเพื่อนรว่มชาติ ตอ้งตกทุกข์ได้ยาก มันบ้าอำนาจ อยากให้คิดสักนิดเถอะ ว่าแล้วหนีความ ตาย ได้มั้ย ดูผู้นำเกาหลีเหนือสิ

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ23 ธันวาคม, 2554 10:50

    คิดและเขียนได้อย่างเยี่ยมยอดมากมาก ด้วยหัวใจและสำนึกของความเป็นคนไทยอย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ ขอชมครับ

    ตอบลบ
  12. ไม่ระบุชื่อ24 ธันวาคม, 2554 13:11

    เขียนได้โดนใจจริงๆ ค่ะคุณเอกก็ชอบอ่านกระทํู้ของคุณ กับคุณ lamtakong ในsanook.com ยังคิดอยู่เลยว่าคุณคือคนๆเดียวกันหรือเปล่า? อำนาจเงินมันครอบงำทำให้คนมันแยกแยะไม่ออกระหว่างความดีกับความเลว คนบ้านนอกต่างจังหวัดเค้าไม่รู้หรอกว่าใครดีใครเลวเค้ารู้อย่างเดียวถ้าผู้นำหมู่บ้านเอาเงินมาให้แล้วให้ไปเลือกเค้าก็เลือก เพราะเค้าคิดได้อยู่อย่างเดียวว่าเลือกใครไปมันก็โกงเหมือนนั่นแหละ คนมีการศึกษาน้อยกว่าคนไร้การศึกษา ผลการเลือกตั้งมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็นพวกแดงน่าโง่มันก็เลยชอบเอามาพูดว่ามันชนะการเลือกตั้งจริงๆแล้วก็รู้ๆกันอยู่ สงสารประเทศไทยมีรัฐบาลและผู้นำรัฐบาลที่โง่ๆๆสุดๆแล้วยังไม่มียางอายอีกยังไม่ยอมลาออก เฮ่อเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะทำอะไรไม่ได้

    ตอบลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ30 ธันวาคม, 2554 12:24

    เห็นบทความของคุณแล้วสะใจจริงๆ แต่คนบ้านนอกเค้าไม่รู้หรอกว่ากำลังตกเป็นเครื่องมือของคนพวกนี้อยู่ เค้ารู้แต่ว่าใครชักจูงเค้าก็ตามคนนั้นๆ พวกนั้นก็จะใส่แต่สิ่งที่ดีของพวกเขา แต่สิ่งที่เสียๆๆมันไม่ใส่ไป ใครไม่พอใจให้ขนของให้มันไปอยู่ที่อื่นเลยไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆพวกบ้า

    ตอบลบ
  14. ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยได้อ่านข้อคิดเห็นของคุณใหม่เมืองเอกใน sanook มาแล้วหลายๆ ครั้ง ในความเห็นของผม ถ้าคนไทยมองอย่างเป็นกลางจริงๆ รู้ซึ่งหน้าที่และสิทธิที่พึงมี รู้ว่าการกระทำที่เหมาะสมคืออะไร คงจะไม่ถูกข่าวสารที่เป็นเท็จหลอกลววงได้ง่าย คนไทยยังขาดความเข้าใจในคำว่าประชาธิปไตย ต้องแยกให้ออกกับเสียงส่วนมากและพวกมากลากไป เพราะถ้าแยกไม่ออกคงไม่แคล้วเป็นเผด็จการที่มีเสียงส่วนมากอยู่

    ตอบลบ
  15. ไม่ระบุชื่อ31 มกราคม, 2555 10:51

    ถึงเป็นเสียงส่วนน้อย แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะมาตรฐานการศึกษาไทย "ต่ำมาก"

    ตอบลบ
  16. ไม่ระบุชื่อ02 กุมภาพันธ์, 2555 16:19

    มีเงินไม่ใช่หรอคะ ? ... ทำไมไม่ซื้อที่ดินสักประเทศ แล้วสร้างวัฒนธรรมใหม่ขึ้น สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ตั้งตนขึ้นเป็นประมุข อุปมาตัวเองเป็นเจ้าแผ่นดิน ใครจงรักภักดีก็ขนกันไปให้หมด ... แค่นี้เองไม่เห็นยาก... ประเทศไทยจะได้สูงขึ้น

    ตอบลบ
  17. ไม่ระบุชื่อ03 กุมภาพันธ์, 2555 09:42

    ขอบคุณ คุณใหม่เมืองเอก จริง ๆ ค่ะ ที่เขียนบรรยายจนเห็นภาพ
    ถ้าผู้อ่านมองเป็นกลาง ๆ เทิดทูลสถาบันกษัตริย์และรักประเทศไทยจริง คงจะเข้าใจ
    และคงไม่คิดที่จะทำอะไรผิดแน่ ค่ะ

    ตอบลบ
  18. ไม่ระบุชื่อ11 กุมภาพันธ์, 2555 19:35

    เราเกิดบนแผ่นดินไทย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข พวกเราจักขอเทิดทูนพระองค์ท่านตลอดชั่วชีวิต ค่ะ

    ตอบลบ
  19. ไม่ระบุชื่อ05 มีนาคม, 2555 16:35

    เรี่องนี้มีมานานแล้วนะ ตอนนั้นไม่เอะใจอะไรเลย จะเป็นเพียงแต่ปากต่อปากคือคุณเอกเคยได้ยินไหมที่ว่าเขาเล่าเขาว่า คนนั้นเล่าคนนี้บอก คนที่ชาวบ้านเชื่อถือ พวกเขาจะเล่นกันเป็นระบบมานานนะ แต่นึกไม่ถึงพอจนถึงทุกวันนี้ จะมีคนที่หลงผิดเยอะมาก เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตอนนั้นต้องออกมาพูดดังๆว่าจะด่าใครก็ด่าไป แต่อย่ามาด่าท่านให้ได้ยินไม่ยั่งงั้นมีเรื่องพวกเขาถึงได้เงียบกัน แต่ยังซุบซิบๆมีบ้าง สนับสนุนให้มีมาตรา 112 นี้ให้คงอยู่ตลอดไป ขนาดมีพวกมันยังเหิมเกริมขนาดนี้ถ้าไม่มี คนไทยคงลุกมาฆ่ากันเอง เพราะทนฟังทนได้ยินพวกที่มาด่าคนที่เรารักและเคารพไม่ไหว คนดีๆมาตรานี้ไม่เคยทำให้เดือดร้อนสักนิดเดียว มีแต่พวก.... อยากรู้นักว่าพวกนี้จะแก้กฎหมายอีกกี่มาตรา พอเวลาพวกตัวเองทำผิด ก็ตามไปแก้ให้พ้นผิดเวรกรรมของประเทศจริงๆ

    ตอบลบ
  20. ไม่ได้เจอกันนานแล้ว อึดอัดมากๆ จะคุยกันต่อทางไหนดีล่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออภัยลุงแร้ง ผมเพิ่งเห็นคห.นี้
      ลุงแร้งก็คุยกับผมผ่านข้อความที่เว็บสนุกก็ได้นี่ครับ

      ลบ
    2. มาเยี่ยมบล๊อกพ่อเอก สวัสดีลุงแร้งด้วยคนค่ะ

      ลบ
  21. ไม่ระบุชื่อ26 ตุลาคม, 2559 15:22

    ผมนี่ตาสว่างเลย เมื่อก่อนก้อคิดเเบบนั้นครับเลือกใครมันก้อโกงขอแค่ให้บ้านเมืองมันพัฒนาก้อพอ ขอบคุณมากนะครับที่นำบทความและสิ่งที่พวกคุณทุกคนรู้มาตีแผ่ให้คนความรู้น้อยอย่างผมได้อ่าน ได้ทำให้ผมหายโง่
    อยากให้คนไทยทุกคนได้อ่านได้รับรู้อย่างผมบ้างจะได้รู้ซักทีว่า
    แท้จริงแล้วนั้นสิ่งที่เราสมควรรัก เทิดทูน และปกป้องอย่างยอมตายถวายชีวิตนั้นคือสถาบันกษัตริย์ของเรา องค์พระประมุขและเชื้ิอพระวงศ์ทุกพระองค์
    หาใช่แค่คนที่ใช้เงินซื้ออำนาจ ใช้เงินสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตัวเอง
    บรรพบุรษของเราต่างล้วนยอมตายถวายชีวิตสู้รบเพื่อองค์เหนือหัว หลั่งเลือดมากมายเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ให้ได้มีเอกราชยาวนานมาถึงทุกวันนี้ เราทุกคนสมควรแล้วที่จะต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเและบุญคุณที่ท่านเหล่านั้นได้มอบใํห้เรา เราไม่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ อย่างหลายๆประเทศ
    บางคนก้อต้องเคยคิดว่าทำไมเราไม่มีอย่างเค้า อย่าน้อยใจแต่อยากให้ภูมิใจมากว่าเพราะเราไม่เคยเป็นทาส เพราะฉะนั้นเราก้อสมควรรู้และสำนึกในหน้าที่ความเป็นคนไทย ว่าสิ่งใดที่เราสมควรจะปกป้องระหว่างสถาบันกษัตริย์
    กับไอ้พวกทรพีแผ่นดินที่พยายามจะตั้งสถาบันสัตว์นรกของพวกมัน
    ถ้าคำพูดใดใช้ไม่เหมาะสมผมขออภัยด้วยผมจบแค่ป.6แต่ผมรักในหลวง

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม