วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เก่งแต่โกง และระบบตรวจสอบทุจริตของสิงคโปร์



ปัญหาความแตกแยกทางความคิดของคนไทยอย่างมากตอนนี้คือ

มีคนไทยที่ยึดมั่นหลักศาสนา ไม่ยอมรับผู้นำประเทศที่เก่งแต่โกง ที่พยายามหาผลประโยชน์เข้าสู่ครอบครัวตนเองและพวกพ้อง แม้จะมีแนวการบริหารประเทศที่รวดเร็วทันใจประชาชนก็ตาม

และก็มีคนไทยอีกกลุ่มซึ่งเริ่มมีจำนวนมาก ทำใจยอมรับนักการเมืองโกงได้ แต่ขอให้ทำประโยชน์คืนแก่ประชาชนด้วย

คนไทยส่วนใหญ่มักมองภาพฉาบฉวยไม่ลงลึกในรายละเอียดและเหตุผล ทั้งๆที่ความเป็นจริงในสมัยผู้นำที่คนไทยเชื่อว่าเก่งแต่โกงนั้น มีหลายอย่างก็เป็นแค่ภาพลวงตาว่าเขาเก่ง (แต่หลายอย่างก็ต้องยอมรับว่า ที่เขาเก่งจริงๆก็มี) และยุคนั้นวิกฤติเศรษฐกิจโลกก็ผ่านไปแล้ว

ยุคนั้นประชาชนส่วนใหญ่ชอบผู้นำคนนี้เพราะยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทันว่าเขาโกงเพราะเขาโกงเนียนมาก ยิ่งตอนนั้นบ้านเมืองไม่แตกแยก การบริหารบ้านเมืองก็ทำได้ง่ายกว่ายุคปัจจุบันมาก

ฉะนั้นความแตกแยกของคนไทยจึงเริ่มจากการที่ผู้นำคนนั้นๆโกงเป็นประเด็นสำคัญ เพราะฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับ แต่อีกฝ่ายยอมรับได้

---------------------

สมมุติว่า คุณผู้อ่านมีลูก ถ้าคุณผู้อ่านสอนลูกว่า ลูกเอ๋ยแอบโกงเอากระดาษจดดำตอบเข้าไปในห้องสอบ แล้วลูกสอบได้ที่1 พ่อไม่ว่าหรอก ถ้าลูกสอบได้พ่อก็ภูมิใจลูกเหมือนกัน 

คุณผู้อ่านอยากสอนลูกของคุณผู้อ่านเป็นคนแบบนี้หรือไม่??

แต่ผู้นำที่คนไทยเชื่อว่าเก่งแต่โกงนั้น เขาได้สอนให้ลูกของเขากระทำแบบนี้มาแล้ว และถูกอาจารย์คุมสอบจับได้ ปรับตกในวิชานั้นๆมาแล้ว และเขาก็ยังซื้อข้อสอบเพื่อให้ลูกสาวอีกคนของเขาเอนทรานซ์ติด คนในวงในต่างรู้ดี เพียงแต่เอาผิดเขาไม่ได้ เพราะเขาคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ

คุณผู้อ่านลองนึกดูนะครับว่า ถ้าประเทศไทยมีคนโกงกันเยอะ โกงแล้วรวย สังคมยอมรับ บ้านเมืองจะวุ่นวายขนาดไหน??

ทุกวันนี้คนโกงมีมาก มากเพราะคนไทยเริ่มยอมรับคนโกงมากขึ้น จนเดี๋ยวนี้คนจำนวนมากคิดว่า ถ้าโกงแล้วสบาย โกงแล้วรวย ก็ขอฉันโกงบ้างดีกว่า

ถ้าเราสอนลูกหลานให้โกง ต่อไป เราก็จะมีตำรวจรับส่วยมากขึ้น ตำรวจรีดไถมากขึัน ข้าราชการรับใต้โต๊ะมากขึ้น

เราจะมีผู้รับเหมาก่อสร้างต่างๆก็โกงอิฐ หิน ดินทรายมากขึ้น ประเทศไทยมีคนโกงมากขึ้นในทุกสาขาอาชีพ แล้วสังคมจะวุ่นวายขนาดไหน??

----------------------

ผมจะบอกให้ เคยมีผลวิจัยของฝรั่งวิจัยระบบราชการไทยไว้ว่า แค่เพียงข้าราขการและนักการเมืองไทยหยุดโกงได้เท่านั้น ประเทศไทยจะมีงบประมาณมาพัฒนาประเทศอีกมหาศาล

พูดง่ายๆคือ ไม่ต้องมีนักการเมืองเก่งมาก ข้าราชการก็ไม่ต้องเก่งมาก ขอแค่ไม่โกงเท่านั้น ประเทศไทยก็จะก้าวหน้ากว่านี้เยอะ

แม้แต่ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ก็เคยพูดประชดเปรียบเปรยไว้ว่า ถ้าเมืองไทยไม่มีคอร์รัปชัน ถนนทุกสายในเมืองไทยสามารถปูด้วยทองคำ !!

----------------------

ระบบตรวจสอบทุจริตของสิงคโปร์

คนสิงคโปร์ไม่ใช่ว่าจะเก่งกว่าคนไทย แต่คนสิงคโปร์ เขาทำระบบราชการและการเมืองให้ปราศจากการโกงได้สำเร็จ สิงคโปร์จึงมีเงินมาพัฒนาประเทศและพัฒนาคุณภาพประชาชนจนเจริญก้าวหน้ามากที่สุดชาติหนึ่งในโลก

ขอยกตัวอย่างนะครับ

เช่นข้าราขการสิงคโปร์ มีรายได้เดือนละเท่านี้ ก็จะสามารถซื้อหาทรัพย์สินได้ไม่เกินวงเงินเท่านี้ หากข้าราชการสิงคโปร์รายใดซื้อทรัพย์สินมีค่าเกินกว่าวงเงินที่ควรจะเป็นตามระดับรายได้ของตัวเองแล้ว ก็ต้องทำรายงานที่มาที่ไปของเงินที่นำมาซื้อทรัพย์สินนั้นๆส่งต่อหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลด้วย

หากไม่สามารถทำรายงานที่มาที่ไปของเงินได้อย่างโปร่งใส ก็อาจจะถูกตั้งข้อหาคอรัปชั่นได้ทันที และอาจถูกยึดทรัพย์สินนั้นได้ แถมติดคุกอีกต่างหาก

ผิดกับข้าราขการไทยบางคนเป็นแค่ข้าราชการชั้นผู้น้อย แค่อ้างมั่วๆไปว่า เมียผมมีที่ดินเยอะ ขายที่ได้ เลยมีเงินมาซื้อรถหรูแพงๆได้ อ้างแค่นี้ก็จบแล้ว แทบไม่มีใครไปตามตรวจสอบ และไม่ต้องมีการทำรายงานถึงที่มาที่ไปของเงินที่นำไปใช้ซื้อทรัพย์สินนั้นๆต่อหน่วยงานรัฐบาล

ส่วนสิงคโปร์ นอกจากคุณต้องทำรายงานที่มาที่ไปของเงินที่นำมาซื้อของแพงๆแล้ว ที่สำคัญที่สุดที่เขาต้องตรวจสอบด้วยก็คือ แล้วคุณจ่ายภาษีรายได้จากเงินที่ได้มาส่วนนั้นรึยัง?? จ่ายได้ครบถ้วนถูกต้องหรือไม่?

เช่น ถ้าคุณเป็นข้าราชการสิงคโปร์ คุณมีเงินเดือน ๆ ละเท่านี้ แต่คุณกลับมีทรัพย์สินมากกว่ารายได้ คูณ จำนวนปีที่คุณทำงานมาเมื่อไหร่ คุณจะโดนตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินทันทีว่า ทำไมคุณถึงรวยได้ขนาดนี้ !!

ถ้าคุณแจงที่มาที่ไปไม่ชัด ศาลสิงคโปร์สั่งยึดทรัพย์คุณได้ทันที และคุณก็โดนข้อหาคอร์รัปชันอีกกระทงด้วย โดยมีโทษจำคุกข้อหาคอร์รัปชันกระทงละ 5 ปี ถ้าโกงหลายเรื่องก็บวกเข้าไปทีละ 5 ปี

ที่จริงสิงคโปร์ เขาไม่ได้ทำเฉพาะข้าราชการเท่านั้น แม้แต่ประชาชนเอง ถ้ารวยผิดปกติขึ้นมา เช่นมีระดับเงินเดือนเท่านี้ แต่มีทรพัย์สินหรูหราผิดปกติ ก็จะโดนตรวจสอบได้เช่นกัน ถึงที่มาที่ไปของเงิน ว่า คุณไปทำอาชีพอะไรมา ถึงได้มีเงินซื้อของแพงในระดับนี้ได้ 

หรือประชาชนบางคนอยู่ ๆ มีเงินทองไปฝากธนาคารจำนวนมาก ก็อาจถูกสุ่มเพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินเช่นกัน แต่ปัจจุบันเรื่องรวยผิดปกติแบบนี้จึงไม่ค่อยมีในสิงคโปร์ สิงคโปร์จึงไม่ใช่แหล่งที่พวกมาเฟียอยากมาฟอกเงิน

ด้วยระบบที่เข้มงวดและเที่ยงตรงของสิงคโปร์แบบที่ผมอธิบายนี้ ทำให้ คนสิงคโปร์จึงไม่ค่่อยมีใครกล้าโกงครับ

--------------------

จากกรณีดาราชายไทยคนนึง ที่มีบ้านใหญ่โต จนผู้คนในสังคมสงสัยที่มาของความร่ำรวยนั้น ถ้าเป็นที่สิงคโปร์ ดาราชายคนนั้นโดนตรวจสอบหนักแน่ๆครับ สังคมสิงคโปร์ ประชาชนต่างก็เป็นหูเป็นตาตรวจสอบเรื่องทุจริต คอรัปชั่น แจ้งข่าวให้แก่รัฐด้วย

ขอให้คุณผู้อ่านจำไว้เลยนะครับ

ประเทศที่เจริญระดับแนวหน้าของโลกนั้น เพราะเขามีนักการเมืองคอรัปชั่นและข้าราชการโกงกินน้อยมากๆ

ฉะนั้นถ้ามีใครพูดว่า นักการเมืองโกงได้ ไม่เป็นไร ขอให้ทำให้ประเทศเจริญก็พ นั่นคือ คำพูดของคนโง่ครับ

"นักการเมืองเกาหลีใต้ กับญี่ปุ่น ถ้าถูกจับได้ว่าโกง เขาไม่รอให้ศาลตัดสินหรอกครับ เขาชิงฆ่าตัวตายชดใช้ความผิดก่อนเลย" (มาตรฐานความรับผิดชอบของนักการเมืองเขาสูง)

แนะนำอ่าน ผู้ทำลายประชาธิปไตยตัวจริง!!


2 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าคุณหมายถึง "คนที่คุณก็รู้ว่าคือใคร" ในความเห็นของผม เขาเป็นคน "เก่งแต่โกง" ในความหมายของ "เก่งแต่เฉพาะเรื่องโกง" หรือพูดสั้นๆก็ได้ว่า "เก่งโกง" เก่งเป็นคำขยายคำว่าโกง

    เวลาเราพูดคำว่า "เก่งแต่โกง" คนที่ได้ยินมักคิดว่า "เก่ง" ที่มีความหมายเป็น "บวก" ในทุกเรื่อง ซึ่งขัดแย้งกับ คำว่า "โกง" จึงใช้สันธาน "แต่" มาขั้นกลาง ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับความหมายนี้

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ ที่คุณว่ามาก็ถูกต้องครับ

    แต่คนส่วนใหญ่เขาเชื่อว่าเก่ง ในทางดี

    ผมเลยต้องตามกระแสไปว่า ถึงเก่ง แต่ก็โกง

    แถมเก่งในเรื่องโกง เหมือนที่คุณว่าด้วย นั่นก็ใช่ครับ

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม