วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทำไมทหารต้องฆ่าประชาชนที่โดนหลอกมาตาย 2




(คลิกย้อนอ่านตอนแรก)

เมื่อจบตอนแรก คุณได้ข้อคิดอะไรบ้าง?

ทหารญี่ปุ่นยกธงขาวขอยอมแพ้แก่ทหารอเมริกัน แต่ทหารอเมริกันไม่สนใจแถมจะปาระเบิดใส่ทหารญี่ปุ่นด้วย

นั่นก็เพราะ ในสงครามบางครั้งก็ไม่อาจวางใจศัตรูได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่า เบื้องหลังการยอมแพ้นั้น มีอะไรซ่อนอยู่หรือไม่?

และเมื่อทหารอเมริกันตาย ทหารญี่ปุ่นก็ไม่ถือสา แถมให้เกียรติผู้ตายที่ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญเรื่อง การทำหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งผมจะค่อยอธิบายเพิ่มเติมในบทความต่อๆ ไป

ส่วนในตอนที่2 นี้ ผมขกยกตัวอย่างจากซีรีย์ญี่ปุ่นอิงประวัติศาสตร์เรื่อง Atsu hime หรือในชื่อไทยคือ เจ้าหญิงอัตสึ

โดยจะขอเล่าเรื่องของท่านอี นาโอสุเกะ หรือไทโรอี



ท่านอี นาโอสุเกะ ได้รับการแต่งตั้งจากท่านอิเอซาดะ โชกุนคนที่11 ให้รับตำแหน่ง ไทโร หรือตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดของรัฐบาลโชกุน เนื่องจากท่านอิเอซาดะเป็นโชกุนที่อ่อนแอ จึงทำให้รัฐบาลโชกุนอ่อนแอตามไปด้วย

ด้วยเหตุนี้ท่านอิเอซาดะ จึงเลือกท่านอี นาโอสุเกะ ซึ่งเป็นคนเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มารับตำแหน่งไทโร เพื่อหวังให้มาช่วยปกป้องฟื้นฟูรัฐบาลโชกุนให้เข้มแข็งขึ้น

แต่หลังจากท่านอิเอซาดะ หรือโชกุนคนที่11 สามีของท่านหญิงอัตสึได้ถึงแก่กรรมลง ด้วยเหตุที่ท่านโชกุนไม่มีทายาท ก่อนท่านอิเอซาดะตาย ท่านจึงได้รับบุตรบุญธรรม มาเป็นทายาทเพื่อสืบทอดตำแหน่งโชกุนคนที่12 ต่อไป ซึ่งนั่นก็คือ ท่านอิเอโมจิ

เมื่อท่านอิเอโมจิเป็นโชกุนคนที่12 แล้ว ก็ถือมีศักดิ์เป็นบุตรบุญธรรมของท่านหญิงอัตสึด้วยเช่นกัน

และก่อนท่านอิเอซาดะ สามีของท่านหญิงอัตสึตาย ได้เคยสั่งเสียให้ท่านหญิงอัตสึ คอยนั่งเคียงข้างท่านโชกุนคนใหม่ทุกครั้งในการออกว่าราชการ นอกจากนี้ท่านอิเอซาดะ ก็เคยสั่งเสียเรื่องเดียวกันนี้กับไทโรอีเช่นกัน

แต่พอท่านอิเอซาดะตายไปแล้ว ไทโรอีกลับทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าเคยมีคำสั่งเรื่องให้ท่านหญิงอัตสึ ออกว่าราชการเคียงข้างโชกุนคนใหม่ ตรงนี้เองทำให้ท่านหญิงอัตสึกับไทโรอี จึงเริ่มไม่กินเส้นกัน

ที่ไทโรอี ไม่ยอมทำตามคำสั่งเสียของท่านโชกุนอิเอซาดะ ก็เพราะ ไทโรอีเห็นว่า ท่านหญิงอัตสึเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าแคว้นสัทสุมะ ซึ่งเจ้าแคว้นสัทสุมะนั้นมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐบาลโชกุนให้ลดลง จึงได้ส่งท่านหญิงอัตสึเข้ามาเป็นภรรยาโชกุน

ไทโรอี จึงมองว่าท่านหญิงอัตสึเป็นคนของฝ่ายตรงข้าม และอีกเหตุผลคือท่านหญิงอัตสึเป็นหญิง และอาจเกรงใจแคว้นบ้านเกิด ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการฟื้นฟูรัฐบาลโชกุนให้เข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง

เนื่องจากท่านอิเอโมจิ โชกุนคนที่12 ยังอายุน้อย อำนาจในการบริหารรัฐบาลโชกุน และกองทัพโชกุน จึงตกอยู่ในอำนาจของไทโรอีแบบเบ็ดเสร็จ

ไทโรอี จึงเริ่มทำการกวาดล้างผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามทุกวิถีทาง เช่นหากเป็นคนมีตำแหน่งในรัฐบาลโชกุนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับไทโรอี ก็จะถูกสั่งปลดและถูกสั่งกักบริเวณไม่ให้ออกจากบ้านของตนเอง

ไทโรอี สั่งให้มีการกวาดล้างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลโชกนอย่างโหดร้ายรุนแรง มีคนถูกสังหารมีคนถูกจับคุมขังทรมานมากมายหลายพันคน ทำให้ยุคไทโรอี ปกครองประเทศ กลายเป็นยุคที่โหดร้าย และทารุณ ในสายตาของท่านหญิงอัตสึ

ที่สำคัญที่สุด คนที่ท่านหญิงอัตสึรู้จัก หรือแม้แต่คนที่ท่านหญิงอัตสึเคารพนับถือ ก็ถูกไทโรอีสั่งลงโทษไปด้วย

ตรงจุดนี้ทำให้ท่านหญิงอัตสึไม่พอใจท่านไทโรอีอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะท่านหญิงอัตสึเป็นแค่แม่บุญธรรมท่านโชกุนคนที่12 เท่านั้น

และแล้วในวันหนึ่ง ท่านหญิงอัตสึ จึงได้ไปพบไทโรอี ถึงจวน

ต่อไปนี้ ผมขอยกมาจากบทความเก่าของผม ในเรื่องเจ้าหญิงอัตสึที่รัก ตอนที่เกี่ยวกับ ไทโรอี

------------------------

แล้วท่านเท็นโชอิน (เป็นชื่อใหม่ของท่านหญิงอัตสึ) ก็ได้มีโอกาสออกไปพบไทโรอีที่ที่พักของไทโร (ตามลำพัง)

ไทโรอีเทน้ำร้อนลงในถ้วยชา แล้วกล่าวว่า "นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้ชงชาให้ท่านเท็นโชอินแบบนี้ ว่าแต่..ท่านไม่รังเกียจชาที่ชงจากมือสกปรกของข้าแน่หรือ?"


ท่านเท็นโชอิน "ท่านก็คิดว่ามือตัวเองสกปรกหรือ?"

ไทโรอีใช้ไม้คนชาคนน้ำชา ระหว่างนั้นท่านเท็นโชอินก็คลี่กระดาษที่เขียนรายชื่อกางออก

"นี่เป็นชื่อคนที่ถูกท่านลงโทษ รายชื่อเรียงเต็มหน้ากระดาษไปหมดน่ะ"

"โอ้..มีมากถึงเพียงนี้เลยหรือ?"
ไทโรอีคนน้ำชาจนแตกฟองได้ที่ ก็หมุนถ้วยชา3รอบ แล้วยื่นวางตรงด้านหน้าให้ท่านเท็นโชอิน

แล้วท่านเท็นโชอินก็รับถ้วยชาขึ้นจากพื้น (ซึ่งขณะนั้นไทโรอีก็ก้มหัวทำนองเชื้อเชิญ) เมื่อท่านเท็นโชอินรับถ้วยมาแล้วก็จะก้มหัวเล็กน้อยทำนองขอบคุณ



แล้วท่านเท็นโอินก็วางถ้วยชาลงอีกพื้นอีกครั้ง ก่อนจะที่หยิบเฉพาะถ้วยขึ้นมาจากจานรองขึ้นดื่ม หมุนถ้วยเข้าหาตัวก่อนแล้วจึงดื่ม

ขณะที่ท่านเท็นโชอินกำลังดื่มชาและสัมผัสถึงรสชาติและกลิ่นของชาอยู่นั้น จู่ๆท่านก็มีอาการอึ้ง! และมีสีหน้าดูผิดปกติ!?

ไทโรอี "รสชาติเป็นอย่างไรขอรับ?"

"เจ็บใจ..แต่ก็.." / "ขอรับ?"


แล้วสีหน้าท่านเท็นโชอินก็เริ่มผ่อนคลายลงและดูแจ่มใสขึ้น "ข้าไม่เคยดื่มชาที่อร่อยแบบนี้มาก่อน" / "ดีใจนัก ที่ได้รับคำชมจากท่าน"

"แล้วท่านไปได้ชารสชาติเลิศนี้มาจากไหนล่ะ?" / "ข้าสนใจศึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับชามาหลายปีแล้วขอรับ"

"อย่างนั้นเองหรอกเหรอ.."
ท่านเท็นโชอินยกชาขึ้นดื่่มอีกครั้ง

"แต่ว่าท่านเท็นโชอินก็เป็นคนตรงไปตรงมาดีนะขอรับ ชมว่าชาอร่อยทั้งที่ชงโดยคนที่ตัวเองแสนจะเกลียด เพราะถ้ามีทิฐิก็คงจะไม่พูด"

ท่านเท็นโชอินดื่มหมดแล้ววางถ้วยลง "ข้าจะพูดตรงตามสิ่งที่ตัวเองคิดเสมอ และรสชาติของชามันก็ไม่ได้เกี่ยวกับการกระทำที่โหดร้าย..ไร้มนุษยธรรมของท่าน"

ไทโรอีเอื้อมไปหยิบถ้วยชากลับมา "เรื่องราวในครั้งนี้อาจจะทำให้น้ำร้อนซึมซาบถึงแก่นแท้ของรสชาติชามากขึ้นก็ได้"

ท่านเท็นโชอิน "ทั้งที่ทำร้ายผู้คนให้ทกุข์ทรมานมากมายถึงเพียงนั้นน่ะเหรอ.."

ไทโรอี "มีเรื่องนึงที่ข้าอยากจะขอถามท่านได้มั้ย?" / "อะไรล่ะ?"

"ท่านเท็นโชอินคิดว่า ในยุคสมัยนี้สมควรที่จะขับไล่คนต่างชาติต่อไปอีกหรือไม่ขอรับ?" / "เรื่องนั้นน่ะ..คงเป็นไปไม่ได้"

"ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่ว่า..การต่อต้านคนต่างชาติเป็นอุดมการณ์ของคนที่่ยึดถือคำสั่งลับที่ออกมาจากวัง อ้างแต่ว่า จะต้องขับไล่ต่างชาติเพื่อไม่ให้มาล่วงล้ำเข้ามาใกล้องค์จักรพรรดิ เราจะวางใจมอบอนาคตของประเทศนี้ให้กับคนโง่เขลาเหล่านั้นได้หรือ?

ทั้งหมดที่นาโอาสุเกะคนนี้ทำลงไปก็เพื่อปกป้องประเทศชาติของเรา เราจำเป็นต้องทำสนธิสัญญาทางการค้า ก็เพื่อปกป้องประเทศของเราจากพวกต่างชาติ และเพื่อปกป้องประเทศชาติของเราจากคนโง่เขลา ก็คงหลีกเลี่ยงจากการถูกเคียดแค้นชิงชังได้ยาก"


"แล้วที่ทำให้เลือดนองทั่วแผ่นดินนั้น ท่านไม่ละอายต่อฟ้าดินบ้างเหรอ?" ท่านเท็นโชอินถามตรงและแรง

"ไม่เคยแม้แต่จะคิด! เพราะข้าถือว่า..ได้ทำตาม
ภาระหน้าที่ของตัวเองจนสมบูรณ์แล้ว"

"ภาระหน้าที่เหรอ?" / "ใช่แล้ว
หน้าที่ขอรับ!"

สายตาของคนทั้งสองต่างจ้องกัน

"ท่านยึดถือสิ่งนั้นมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?" / "ขอรับ"

เมื่อได้ยินคำตอบที่หนักแน่นและชัดเจนจากไทโรอี เพียงครู่ที่ท่านเท็นโชอินหยุดคิด สีหน้าที่เคร่งเครียดของท่านเท็นโชอินก็ค่อยๆผ่อนคลายลง และดูเป็นกันเองมากขึ้น

"จากนี้ไป..ท่านจะชงชาให้ข้าดื่มอีกได้มั้ย?" / "เป็นเกียรติสำหรับข้าอย่างยิ่งขอรับ"

"ที่สัทสุมะสอนกันว่า จงอย่าฟังความข้างเดียว ข้าก็เลยอยากได้ยินฟังจากปากของท่านเอง" / "กับผู้ที่อุตส่าห์ชมรสชาติชาของข้า ข้าเองก็คิดที่จะเปิดอกพูดเช่นกัน"

ท่านเท็นโชอินยิ้มเมื่อได้ยินไทไรอีตอบเช่นนั้น

"จริงสิ! เกือบลืมซะสนิท" แล้วท่านเท็นโชอินก็หันไปหยิบผ้าชิ้นหนึ่งออกมา แล้ววางตรงหน้าไทโรอี



"นี่คือ?" / "เป็นผ้าที่เย็บด้วยจักรเย็บผ้าจากต่างประเทศ ข้าตั้งใจที่จะเย็บมาให้ท่านเชียวนะ"

"เอามาให้ข้ารึขอรับ!?"
ไทโรอีมีน้ำเสียงดีใจปนแปลกใจ

"เพื่อขอบคุณน้ำชาของวันนี้ไง"

เมื่อไทโรอีหยิบผ้าเช็ดหน้าจากท่านเท็นโอชินขึ้นมา ค่อยๆคลี่ออกแล้วพินิจดู จากอดีตสีหน้าไทโรที่เคยดุดันและเคร่งขรึมต่อหน้าท่านเท็นโชอินมาตลอด แต่มาบัดนี้กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างตรงกันข้าม เพราะไทโรอีเริ่มรู้ซึ้งถึงน้ำใจที่แท้จริงของท่านเท็นโชอินแล้ว

"ข้ารู้สึกเหมือนว่ามาตอนนี้ข้า..พอจะเข้าใจ ความรู้สึกของท่านคุโบคนก่อนขึ้นมาบ้างแล้ว" (ไทโรอีน้ำตาเริ่มคลอนิดๆ)

"วันนี้น่ะ เป็นวันทีี่่เราต่างก็เข้าใจกันมากขึ้นหลายเรื่องนะ"

"จริงอย่างที่ท่านพูดแล้วล่ะขอรับ"

วันนี้เป็นวันที่ท่านเท็นโชอินได้มีโอกาสชิมชาที่ท่านอีชงให้ เพียงครั้งเดียวในชีวิต ไม่มีวันที่จะหวนกลับมาได้อีก


-----------------------

ตอนไทโรอี ยังไม่จบ โปรดติดตามจุดจบของไทโรอีในตอนต่อไปครับ


คลิกอ่าน ตอน3


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม