วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทำไมทหารต้องฆ่าประชาชนที่โดนหลอกมาตาย 1





บทความที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ จะเรียกได้ว่า เป็นบทความที่จะแบ่งเป็นตอนๆ ค่อยๆ ลำดับความและเหตุผล ว่าทำไมทหารถึงจำเป็นต้องฆ่าประชาชนที่ทั้งโดนหลอกและไม่โดนหลอกมาตาย แล้วทำไม เราถึงไม่อาจถือโทษหรือโกรธทหารได้ทั้งหมด เพราะอะไร?

แล้วทำไมการที่ทหารฆ่าประชาชนในเหตุการจราจลหลายๆครั้งในอดีต จึงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระมหากษัตริย์โดยตรงเลย แต่พวกล้มเจ้ามักจะใส่ร้ายใส่ความการตายของประชาชนเหล่านั้นกล่าวหาไปที่พระมหากษัตริย์ ว่าพระองค์มีส่วนร่วมในการสั่งการ

หากคุณได้อ่านบทความในแต่ละตอนของผมไปเรื่อยๆ จนบทสุดท้ายในซีรีย์นี้ คุณจะเข้าใจว่า ทำไมทหารถึงไม่ผิดที่ฆ่าประชาชนที่โดนหลอกหรือไม่โดนหลอกให้มาตายครับ

และทำไมต่อมา ในวันนี้อดีตคอมมิวนิสต์หลายๆ คนถึงได้จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์

-----------------------------


ตอนแรกนี้ผม ขอยกตัวอย่างมาจาก ละครเรื่องหนูน้อยมารุโกะ จอมซ่า


คุณลุงคนขับรถ                                                   เพื่อนของมารุโกะผู้ร่ำรวย

ลุงคนขับรถของเพื่อนผู้ร่ำรวยของมารุโกะ ได้สร้างความประทับใจให้กับมารุโกะอย่างมาก เพราะลุงคนขับรถสามารถพูดคุยกับฝรั่งที่อยู่ในงานวัดประจำปีของเมืองได้อย่างคล่องแคล่ว


วันหนึ่งมารุโกะได้รับเชิญจากเพื่อนร่ำรวยให้ไปทานอาหารที่คฤหาสถ์ มารุโกะได้ทราบประวัติลุงคนขับรถจากเพื่อนว่า ลุงเรียนจบขั้นมหาวิทยาลัย และอยู่ทำงานให้กับตระกูลนี้มาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ของเพื่อนมารุโกะ

แต่แล้ววันนั้นลุงคนขับรถได้ล้มป่วยลง มารุโกะจึงได้เข้าไปเยี่ยม

ซึ่งคุณลุงคนขับรถของเพื่อนมารุโกะ ก็ได้มีโอกาสเล่าความหลังของตัวเองสมัยสงครามให้มารุโกะฟัง

ลุงคนขับรถได้เล่าให้มารุโกะฟังว่า ลุงได้เคยเป็นทหารไปรบในสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งครั้งนึงคุณลุงกับเพื่อนทหารที่ร่วมรบด้วยกันอีก1คน ได้ไปติดบนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นทั้งสองคนไม่มีกระสุนปืนเหลืออยู่แล้ว

ทั้งคู่ต่างคิดว่า ตัวเองอาจไม่ได้กลับไปเจอลูกเมียและคนที่ตัวเองรักอีก

คุณลุงคนขับรถนั่งดูรูปลูกกับเมียของตน ส่วนเพื่อนทหารของคุณลุงยังไม่แต่งงานได้หยิบเครื่องรางที่ห้อยคอของตัวเองซึ่งคู่หมั้นของเขาได้ให้มาก่อนมารบออกมาดู



เพื่อนทหารของคุณลุงได้บอกกับคุณลุงว่า หากเขาตายช่วยนำข่าวและเครื่องรางของเขาไปมอบให้คู่หมั้นของเขาด้วย แต่คุณลุงกลับบอกว่า ไม่หรอกคุณต้องไม่ตาย คุณจะได้ไปพบคู่หมั้นของคุณอีกแน่นอน

และคุณลุงคนขับรถก็บอกต่ออีกว่า แต่ถ้าหากผมตายแล้วคุณรอด คุณก็ช่วยไปบอกลูกกับเมียของผมว่าผมตายแล้วด้วยนะ พวกเขาจะได้ไม่ต้องรอผมอีก

ขณะนั้นเอง คุณลุงกับเพื่อนก็ได้ยินเสียงคนเดินมา จึงแอบขึ้นไปซุ่มมอง เห็นเป็นทหารอเมริกัน1นายเดินผ่านมา



แต่พอทหารอเมริกันหันมาเห็นลุงกับเพื่อน ก็เปิดฉากระดมยิงใส่ลุงกับเพื่อนทันที!!


ลุงกับเพื่อนรีบหลบลงทันที แล้วจึงปรึกษากันว่า จะทำอย่างไรต่อดี? ในเมื่อเราทั้งสองคนไม่มีกระสุนปืนเหลือเลย สุดท้ายทั้งคู่จึงตัดสินใจขอยอมแพ้ดีกว่า เพราะคิดว่าถ้ายอมแพ้ ก็ยังมีโอกาสรอดกลับบ้าน


แต่ทหารอเมริกัน กลับไม่สนใจ กลับคิดปาระเบิดใส่ลุงและเพื่อน ซึ่งเมื่อลุงและเพื่อนเห็นดังนั้น ก็รีบหลบลงทันที



แต่ว่า ระเบิดมือเกิดระเบิดก่อนที่จะมาถึงลุงและเพื่อน ทำให้ทหารอเมริกันกลับโดนระเบิดเสียเอง

และเมื่อลุงกับเพื่อนลุกออกจากที่หลบ เพื่อไปดูทหารอเมริกันที่เงียบหาย ก็พบว่าทหารอเมริกันนายนี้ ใกล้จะเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเขาก็ได้หยิบรูปครอบครัวลูกเมียของเขาออกมาดูก่อนที่จะตาย


ทหารอเมริกันได้ขอโทษลุงกับเพื่อน และได้ขอร้องลุงกับเพือนก่อนตายว่า ช่วยฝากบอกข่าวแก่ลูกเมียของเขาด้วยว่าเขาได้ตายในสนามรบแล้ว (มีที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา)

ลุงและเพื่อนได้รับปากเขา และลุงได้พูดกับทหารอเมริกันว่า เราทั้งสองฝ่ายต่างมาทำหน้าที่ของตัวเอง เราต่างก็มีคนที่เรารักรออยู่ที่บ้านเหมือนกัน เราไม่โกรธแค้นคุณ

หลังจากนั้นลุงกับเพื่อน ก็ได้ช่วยกันฝังศพทหารอเมริกันนายนี้อย่างสมเกียรติ



และสุดท้ายลุงคนขับรถ ก็ได้กลับไปเจอลูกเมียที่บ้านในที่สุด



----------------------

หลังจากได้อ่านเรื่องที่ผมยกตัวอย่างนี้แล้ว คุณผู้อ่านได้ข้อคิดอะไรจากเรื่องนี้

ซึ่งผมคงยังไม่ขอสรุปอะไรในตอนนี้ แต่จะเขียนเล่าต่อในบทความตอนต่อไปครับ


คลิกอ่านต่อตอน2 !!


1 ความคิดเห็น:

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม