V
คือปัญหาน้ำมันปาล์มราคาแพง แถมขาดตลาดหาซื้อก็ยาก เป็นปัญหาระดับประเทศไปแล้ว และกำลังจะเป็นปัญหาสำหรับพรรครัฐบาลในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าด้วย
เพราะข้าวยากหมากแพงมันกระทบจิตใจคนยิ่งกว่าสิ่งใด
และถึงแม้น้ำมันพืชจะกลับมาขายอย่างปกติได้อีก แต่ราคาสินค้าที่ชิงขึ้นราคาไปแล้ว คงยากที่จะลดราคาลงมาอีกแน่ๆ อย่างแถวบ้านผม พวกก๋วยเตี๋ยว กับข้าว หรืออาหารตามสั่งหลายร้าน ก็ขึ้นราคาไปแล้วทีละ5บาท!! เพราะพวกพ่อค้าแม่ค้าไทยขึ้นราคาทีละบาทสองบาทไม่เป็น!!
-----------------
ทีนี้ แทนที่น้ำมันปาล์มขาดแคลนอย่างเดียวเท่านั้น แต่น้ำมันพืชชนิดอื่น เช่นน้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง แทนที่จะมีขาย ดันกลับหายไปจากท้องตลาดตามไปด้วย
ทั้งกะทิ น้ำตาลทราย ก็พากันหาซื้อยาก ขาดๆหายๆกันตามไปด้วยอีก นี่คือความล้มเหลวของการจัดการของกระทรวงพาณิชย์แท้ๆ ซึ่งรัฐบาลปชป.ก็มีส่วนร่วมในความรับผิดชอบ
-----------------
อยากให้คุณผู้อ่านของผม ช่วยจำไว้อย่างนึงว่า น้ำมันปาล์มเหมาะสำหรับกับการทอดเท่านั้น เพราะทนความร้อนสูงได้นานก่อนที่จะเสื่อมคุณภาพไป น้ำมันปาล์มไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเอามาผัด
เพราะน้ำมันปาล์ม มันมีไตรกลีเซอไลด์สูง!! ซึ่งเป็นไขมันชนิดร้ายกาจตัวนึง ร้ายไม่แพ้คลอเรสเตอรอลชนิดเลวๆ ทั้งไตรกลีเซอไรด์และคลอเรสเตอรอล ล้วนแต่เป็นอันตรายต่อระบบไหลเวียนเลือดทั้งสิ้น
ส่วนน้ำมันถั่วเหลือง กับน้ำมันรำข้าวเหมาะสำหรับกับการผัด อย่างในครัวเรือน ก็สามารถใช้ทอดได้ เพราะเราคงไม่ทอดน้ำมันซ้ำๆแบบพวกพ่อค้าแม่ค้า ที่สำคัญ น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันรำข้าว ไม่มีคลอเรสเตอรอลชนิดเลว และไตรกลีเซอไรด์ ไขมันทั้ง2ชนิดที่อันตรายต่อร่างกาย
สาเหตุที่พ่อค้าแม่ค้าเขาใช้น้ำมันปาล์มทอดอาหารขาย มี2เหตุผลเท่านั้น คือเมื่อก่อนราคาน้ำมันปาล์มถูกกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น และทนความร้อนได้ดีกว่า จึงดำยาก!!
----------------------------
พอรัฐบาลสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล ด้วยการนำน้ำมันปาล์มาผสมในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จึงทำให้ราคาน้ำมันปาล์มแพงขึ้น และมีโอกาสขาดตลาดได้ง่าย เพราะประเทศไทยผลิตน้ำมันปาล์มไม่ค่อยพอใช้
ที่จริงรัฐควรเน้นให้นำน้ำมันพืชใช้แล้วเท่านั้น ในการนำมาผลิตเป็นไบโอดีเซล ไม่ใช่ไปเอาน้ำมันพืชใหม่ๆมาใช้ผลิต!!
หากรัฐสั่งให้บริษัทน้ำมัน ต้องนำเฉพาะน้ำมันพืชใช้แล้วมาผลิตไบโอดีเซลเท่านั้น ด้วยการหันมารับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วจากประชาชนในราคาพอสมควร ก็จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าขายอาหาร รีบนำน้ำมันใช้แล้วมาขายต่อ ดีกว่าเอาไปทอดซ้ำๆจนเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
เท่ากับเป็นการช่วยส่งเสริมสุขภาพดีแก่ประชาชนทางอ้อมไปด้วย (เว้นแต่ผลผลิตปาล์มล้นตลาด ค่อยนำน้ำมันปาล์มใหม่มาผลิตไบโอดีเซล)
--------------------------
ส่วนเรื่องการกักตุนสินค้าเพื่อปั่นราคาให้สูงขึ้นของพวกพ่อค้านักธุรกิจ รัฐบาลต้องมีมาตรการทางกฏหมายเอาผิดให้หนัก ลงโทษให้เข็ดหลาบ
รัฐบาลแก้ปัญหาที่ผ่านมาผิดพลาด เพราะไปนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ แล้วนำเข้ามาบรรจุขวดในประเทศ ทำให้พวกบริษัทน้ำมันพืช เล่นไม่ค่อยซื่อ แถมห้างที่จัดจำหน่ายก็เล่นไม่ซื่อ
ตอนนั้นรัฐควรแก้เผ็ดด้วยการ นำเข้าน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสำเร็จรูปเข้ามาขายเลย ไม่ใช่เอามาบรรจุแบบที่ได้ทำ เพราะจริงๆแล้ววัตถุดิบไม่ได้ขาดแคลน แต่มันขาดแคลนเพราะโรงงานน้ำมันเล่นแง่มากกว่า
-------------------------
และถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องกระโดดเข้ามาผลิตสินค้าขายเองบ้างแล้วเพื่อแข่งกับบริษัทเอกชน ด้วยการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจเฉพาะผลิตสินค้าจำเป็นในการอุปโภคบริโภค และรัฐควรมีสต็อกสินค้ากันไว้เพื่อควบคุมกลไกราคาในตลาด เพื่อป้องกันการฮั้วราคากันจนสินค้าหมวดจำเป็นของพวกบริษัืทสินค้าเห็นแก่ตัวทั้งหลาย ที่ปั่นราคากักตุนสินค้าต้องขาดแคลนแบบทุกวันนี้
แต่ที่สำคัญที่สุด รัฐจะต้องไม่แปรรูปรัฐวิสหากิจเด็ดขาด เพราะรัฐวิสาหกิจเกิดมาเพื่อป้องกันการเอาเปรียบประชาชนของพวกพ่อค้าธุรกิจ
อย่าให้กลายเป็นแบบกรณีปตท. ที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลบริษัทน้ำมันต่างชาติ ไม่ให้บริษัทน้ำมันต่างชาติขึ้นราคาฮั้วราคาขูดรีดประชาชนได้
แต่ไปๆมาๆ ทุกวันนี้ ปตท.กลับกลายเป็นผู้นำบริษัทน้ำมันขูดรีดประชาชนเสียเอง ...
.
.
ถูกต้องแล้วคร๊าบ แต่ไม่มีใครรู้ มันเป็นกรรมของประเทศครับ
ตอบลบ