วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ท่านเท็นโชอินถูกสงสัย141

atsuhime 141


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 140


ในช่วงเดียวกันนั้น ท่านอาริมะกับซามุไรที่แยกตัวออกมา ได้มาพักอยู่ในเกียวโต ที่โรงเตี๊ยมเทระดะยะ

ท่านอาริมะ "ท่านฮิสสะมิสสึ ท่านไม่เหมือนท่านนาริอาคิระ เพราะท่านไม่สนิทกับไดเมียวแคว้นไหนเลย ยิ่่งไม่มีท่านไซโก ถึงจะไปเกียวโตก็คงทำอะไรไม่ได้หรอก ดูท่าพวกเราต้องลงมื่อเองเท่านั้นล่ะ!"

"ใช่!!"
พวกซามุไรในที่นั้นต่างเห็นพ้อง


ท่านอาริมะ "ญี่ปุ่นกำลังจะถูกชาติตะวันตกยึดเอาเป็นเมืองขึ้น จะให้นั่งเฉยๆรอดูวันนั้นไม่ได้หรอก!"

----------------------

เมื่อท่านฮิสสะมิสึและกองทัพสัทสุมะถึงเกียวโตแล้ว ได้ยื่นฎีกาเพื่อขออนุญาตปฏิรูปบะขุฝุต่อราชสำนัก และท่านฮิสสะมิสึก็ไปพบที่ปรึกษาองค์จักรพรรดิ คือท่านอิวาคุระ อีกทาง

ซึ่งแผนการปฏิรูปบะขุฝุของท่านฮิสสะมิสึก็คือ

ท่านฮิสสะมิสึ "เปลี่ยนคณะที่ปรึกษารัฐบาลใหม่ทั้งชุด และให้ราชสำนักมีอำนาจสูงกว่าขอรับ"

ท่านอิวาคุระ "แล้ววางแผนเป็รูปธรรมไว้บ้างรึเปล่าล่ะ?"

"ให้นิรโทษกรรมผู้ที่ถูกจับกุมใหญ่ครั้งก่อนหน้านี้ และแต่งตั้งท่านมัทสึไดระ ซุงงะขุ(ท่านโยชินางะ) ขึ้้นเป็นไทโร และให้ท่านฮิโตะสึบาชิ โยชิโนบุ เป็นผู้ปกครองของโชกุนคนปัจจุบันขอรับ"

"แผนการนี้บะขุฝุคงปฏิเสธแน่ และเพื่อรวมใจราชสำนักและบะขุฝุเป็นหนึ่งเดียว จักรพรรดิก็คงไม่อยากผิดใจกับบะขะฝุ"

"เำพราเหตุนี้ จึงอยากขอให้ท่านช่วยเหลือด้วยขอรับ"

บรรดาที่ปรึกษาพระจักรพรรดิและท่านอิวาคุระ ได้รับรู้ถึงความต้องการของสัทสุมะแล้ว แต่ก็เหมือนจะดูถูกท่านฮิสสะมิสึอยู่ในที จึงแสร้งบอกไปว่า ระหว่างรอพระอนุญาตอยู่นั้น จึงอยากขอให้กองทัพสัทสุมะรอที่นี่ไปก่อน และระหว่างรอก็ช่วยทำหน้าที่ดูแลตระเวนรักษาความปลอดภัยในเกียวโตไปพลางๆก่อนแล้วกัน

"เรื่องรักษาความปลอดภัยนี้ เชิญท่านฮิสสะมิสึอยากทำอย่างไร ก็ทำได้ตามใจเลยนะ หึๆ" ท่านอิวาคุระพูดเหมือนให้เกียรติแต่เสียงหัวเราะกลับเย้ยหยันในที

----------------------------------

ท่านโอคุโบะรู้สึกเป็นกังวลที่เรื่องฎีกาถูกดองจากพวกที่ปรึกษาจักรพรรดิโดยให้สัทสุมะมาเป็นแค่ยามเฝ้าเมืองหลวงเท่านั้น ส่วนทาเตวากิก็เริ่มห่วงแผนของท่านฮิสสะมิสึว่า คิดจะล้มล้างตระกูลโชกุนหรือยังไง

ทาเตวากิ "ทำแบบนี้เท่ากับกดดัน ไม่สิ คุกคามตระกูลโชกุนชัดๆ ท่านคงไม่คิดเลยสักนิด ว่าจะทำให้ท่านเท็นโชอินต้องลำบาก"

ท่านโอคุโบะถอนหายใจ แม้ห่วงท่านเท็นโชอินเช่นกัน แต่ว่า

"เรื่องแบบนั้นท่านอย่าคิดเก็บมาเป็นอารมณ์ให้มากเลยนะ เพราะ.. การปฏิรูปรัฐบาลทหารเนี่ย ก็เพื่อปกป้องประเทศญี่ปุ่น จะมัวแต่ห่วงปกป้องท่านหญิงอยู่คนเดียว มันจะเสียงานใหญ่ได้นะ"

ก็เพราะรู้ว่าคงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้นี่สิ ทาเตวากิจึงยิ่งเห็นใจท่านเท็นโชอิน

-------------------------

ใจความในฎีกาที่ท่านฮิสสะมิสึเสนอขึ้นไปยังราชสำนัก ถูกรายงานให้บะขุฝุทราบทันที เมื่อท่านคุโบได้อ่านเนื้อความในฎีกาแล้ว บรรดาคณะที่ปรึกษาต่างร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์สัทสุมะต่อท่านคุโบทันที เช่น

"สัทสุมะบังอาจถึงกับไปเจรจาติดต่อโดยตรงกับราชสำนัก ทำอย่างนี้ได้ยังไง"

"แหม! มันน่าแปลกใจนะขอรับ พวกนี้เขาถือดีอะไรถึงกล้ามาวิพากษ์วิจารณ์ว่าควรปฏิรูปบะขุฝุ"

"ทั้งๆที่เป็นแค่โทซามะ ไม่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเลยสักนิด"

"ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไ้ด้จริงๆ"

ท่านคุโบถูกเหล่าี่ที่ปรึกษาหลายคนวิพากษ์กรอกหู จนสีหน้าท่านบ่งบอกว่าเครียดอย่างมาก

-------------------

และเรื่องฎีกานี้ก็ถูกรายงานให้โอโอขุทราบเช่นเดียวกัน

หลังจากสวดมนต์ในตอนเช้าเสร็จแล้ว และหลังจากท่านคุโบกลับไปแล้ว ทั้งฝ่ายท่านเท็นโชอิน ฝ่ายท่านฮงจูิอิน และฝ่ายท่านมิยะยังนั่งคุยกันต่อ

แต่กลับเป็นท่านเท็นโชอินถูกว่ากล่าวอยู่เพียงคนเดียวมากกว่า

ท่านฮงจูอิน "นี่เป็นการแก้แค้นที่ยอดเยี่ยมเหลือเกินนะ ทำให้โยชิโนบุเป็นโชกุนไม่สำเร็จ ก็เลยเสนอให้เป็นผู้ปกครองโชกุนแทน"

ท่านเท็นโชอิน "ให้ท่านโยชิโนบุเป็นผู้ปกครองโชกุน?? สัทสุมะเสนอเรื่องแบบนั้นมาจริงเหรอเจ้าคะ?"

"อย่ามาทำแกล้งเป็นหน้าตายนะ เจ้าน่าจะได้รับรายงานจากสัทสุมะก่อนแล้วนี่ว่าจะทำอะัไรน่ะ" / "ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ!"

นิวาตะ
"แล้วจะให้เข้าใจว่ายังไง ข้าก็อยากจะถามอยู่เหมือนกันว่าขนปืนใหญ่ปืนเล็กไปเกียวโตมากมายอย่างนั้น ตั้งใจจะให้เมืองหลวงเป็นสนามรบรึยังไง"

"ถ้าเมืองหลวงกลายเป็นสนามรบจริงๆ ก็ต้องโทษว่าเป็นความผิดของคนสัทสุมะนะ"
สนมคังเงียวอินสมทบอีกคน

ท่านเท็นโชอินไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะตอนนี้ใครๆก็ต่างพากันเคลือบแคลงในตัวท่าน จนท่านเริ่มน้ำตาคลอเพราะความกดดัน

ส่วนท่านมิยะก็หันมามองดูท่านเท็นโชอิน

ชิเงโนะ
"ท่านทาคิยามะกรุณาพูดอะไรสักอย่างเถอะเจ้าคะ"

ทาคิยามะ "สัทสุมะเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของท่านเท็นโชอิน น่าจะเชื่อถือได้ว่าท่านไม่มีเจตนาร้าย แต่การที่โทซามะแคว้นท่านทำแบบนี้.. ให้อภัยไม่ได้เจ้าค่ะ!"
.
.




วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ท่านไซโกขัดคำสั่ง 140

atsuhime 140


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 139


ท่านชิมะสึ ฮิสสะมิสึได้ยกทัพไปที่เกียวโต จุดประสงค์คือต้องการปฏิรูปบะขุฝุ จึงเดินทางไปขออนุญาตจากราชสำนัก และยังคิดที่จะขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ท่านฮิโตะสึบาชิ โยชิโนบุ และรวมทั้งท่านโยชินางะด้วย

หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากเกียวโตก็จะมุ่งหน้าไปเอโดะต่อไป กองทัพแห่งสัทสุมะยกทัพคราวนี้ขนทั้งปืนเล็กปืนใหญ่จำนวนมากไปด้วย

ระหว่างนั้นท่านเท็นโชอินยังไม่ทราบข่าว แต่ข่าวนี้ทางบะขุฝุและทางโออขุได้รับรู้แล้ว

------------------------------

ีระหว่างที่ท่านเท็นโชอินเดินชมความงามของสวน ก็เผอิญไปเห็นท่านคุโบกับท่านมิยะดูอ่อนหวานซาบซึ้งกันอยู่

-------------------------------

เมื่อท่านคุโบมาพบท่านเท็นโชอินที่ห้องรับรอง ท่านเท็นโชอินก็แซวท่านคุโบเรื่ืองที่ได้เห็นทั้งสองคนหวานกันอยู่ ระหว่างนั้นทาคิยามะขออนุญาตเข้ามาแจ้งข่าวเรื่องที่สัทสุมะยกทัพไปเกียวโตพร้อมปืนเล็กปืนใหญ่มากมาย

พอเมื่อทราบข่าวท่านเท็นโชอินตกใจและกังวลมาก จนท่านคุโบต้องปลอบไปว่า อย่าเพิ่งตกใจไปเพราะเรายังไม่รู้อะไรแน่ชัด

ส่วนฝ่ายท่านฮงจูอืน เมื่อได้รู้ข่าวทัพสัทสุมะก็ถึงกับโกรธทันที โดยท่านฮงจูอินเข้าใจในทันทีว่า เหตุการณ์คราวนี้ท่านเท็นโชอินต้องชักใยบงการอยู่เบื้องหลังแน่ๆ แ้ม้ท่านจะไม่รู้ว่า ท่านเท็นโชอินจะไปอย่างนั้นไปเพื่ออะไร

ทางฝ่ายผู้ติดตามของท่านมิยะ เมื่่อได้รู้ข่าวกองทัพแห่งสัทสุมะยกพลไปเกียวโต นิวาตะออกความเห็นทันทีว่า ทัพสัทสุมะต้องไปบีบบังคับราชสำนักให้ทำอะไรสักอย่างเป็นแน่

ท่านมิยะ
"ยกทัพไปกันเยอะเลยเหรอ??" / "ก็ตั้งใจจะไปขู่นี่เพคะ คงคิดล่ะสิว่าคนเกียวโตตาขาวมากล่ะสินะ เหอะๆๆ" นิวาตะหัวเราะอย่างดูถูกทัพสัทสุมะ แต่ท่านมิยะกลับไม่สนความเห็นของนิวาตะ

-----------------------------

เรื่องทัพสัทสุมะนั้น ที่ปรึกษาคุเสะ หัวหน้าที่ปรึกษาคนใหม่ได้เข้ามาขอพบท่านคุโบและท่านเท็นโชอิน

ท่านคุเสะ "กองทัพสัทสุมะเคลื่อนพลเข้าไปใกล้เกียวโตเข้าไปทุกทีแล้วขอรับ"

ท่านคุโบตวาด!
"เรื่องนั้นท่านกำลังหาว่าท่านแม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยรึไง!!?"

ท่านเท็นโชอิน
"ไม่เป็นไร ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครคิดยังไง" / ท่านคุโบพยักหน้ารับ

"พูดต่อไปสิ"

ท่านคุเสะ
"ต้องขออภัยจริงๆขอรับ เรื่องที่สัทสุมะกำลังทำนี่ ท่านโอมิไดรู้เห็นอะไรบ้างรึเปล่าขอรับ?" / "ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้นน่ะ"

"ถ้าอย่างนั้นข้าขอถามว่า ท่านโอมิไดเคย.. เคยได้รับจดหมายลับจากสัทสุมะ" / "หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!"
ท่านคุโบตวาดอย่างรุนแรง!!

"บังอาจสงสัยท่านแม่ได้อย่างไร มันเกินไปแล้ว!!"

"ขออภัยจริงๆขอรับ กรุณายกโทษให้ข้าด้วยขอรับ"

ท่านเท็นโชอินตกใจที่เห็นท่านคุโบโกรธมากขนาดนั้น แต่เรื่องของสัทสุมะก็ทำให้ท่านเท็นโชอินกลุ้มใจมากจริงๆ

--------------------------

ขณะเดียวกันกองทัพสัทสุมะกำลังมุ่งหน้าไปทางชิโมโนสึกิ แต่เมื่อไปถึงชิโมโนสึกิแล้ว ตามแผนกำหนดไว้นั้น ต้องให้ท่านไซโกซึ่งออกเดินทางมาก่อนแล้วจะต้องมารับ

แต่ว่ากลับไม่มีท่านไซโกอยู่ที่นี่เลย

ท่านฮิสสะมิสึโกรธมากที่ท่านไซโกไม่ทำตามคำสั่งท่าน เพราะท่านไซโกส่งข่าวมาว่า ที่ไม่มาตามนัดเพราะต้องการอยู่ควบคุมซามุไรกลุ่มเซจูที่ตีตัวจากมาไปชุมนุมที่โอซาก้าไม่ให้ทำอะไรนอกลู่นอกทาง

ท่านฮิสสะมิสึโกรธมาก เพราะท่านเคยห้ามไม่ให้ไปยุ่งกับพวกซามุไรคลั่งจักรพรรดิ

แม้ทาเตวากิ และท่านโอคุโบะพยายามหาทางอธิบายช่วยท่านไซโกด้วยเหตุผลต่างๆ แต่ก็ไม่ทำให้ท่านฮิสสะมิสึหายโกรธได้ เพราะท่านไซโกยังเป็นนักโทษที่รัฐบาลตามล่าตัวอยู่ และหากท่านไซโกถูกจับได้ แผนทั้งหมดอาจไม่สำเร็จ

ท่านฮิสสะมิสึถึงกับออกคำสั่งให้ทาเตวากิและท่านโอคุโบะตามไปจับท่านไซโกแล้วเนรเทศไปอยู่เกาะอีกครั้ง

-----------------

เมื่อทาเตวากิและท่านโอคุโบะไปโอซาก้า เพื่อพบทานไซโก หลังจากที่ท่านไซโกรู้ว่าท่านฮิสสะมิสึได้ออกคำสั่งให้จับท่านไซโกไปอยู่เกาะอีก

ท่านไซโก
"อย่างนั้นรึ โดนปล่อยเกาะอีกแล้วรึ" / "ถ้าท่านไปอธิบายให้ท่านฮิสสะมิสึฟัง ท่านก็คงจะยกโทษให้หรอก" ท่านโอคุโบะพยายามเกลี้ยกล่อม

"ข้าไม่อยากจะทำแบบนั้น" / "ท่านคิชิโนะสุเกะ?"

"ข้าน่ะไม่อยากทำงานให้ท่านฮิสสะมิสึเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะคิดในแง่ไหน และถึงแม้ท่านจะยกโทษให้ ต่อไปก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก"

แม้ทาเตวากิจะอ้างเหตุผลว่า ท่านไซโกเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะรวบรวมความเป็นหนึ่งเดียวของพวกซามุไรได้ แต่ท่านไซโกก็ยังปฏิเสธ และบอกว่าทาเตวากิและท่านโอคุโบะสามารถรวบรวมคนได้แน่นอน

เมื่อไม่สามารถเกลี้ยกล่อมท่านไซโกได้แล้ว ท่านโอคุโบะจึงขอท่านไซโกอยางนึงก็คือ

"ท่านคิชิโนะสุเกะ สัญญากับข้าข้อนึงได้มั้ย จะต้องไปอยู่เกาะหรือที่ไหนก็ช่าง จะต้องรักษาชีวิตไว้ ต้องอยู่รอวันที่จะกลับมาทำงานให้สัทสุมะอีกนะ"

คำพูดของท่านโอคุโบะนั้น ทำให้ท่านไซโกถึงกับร้องไห้ในน้ำใจเพื่อน ท่านไซโกเอื้อมมือไปจับมือท่านโอคุโบะ

"ข้าเข้าใจแล้ว ข้าสัญญา!" / "สัญญาแล้วก็ต้องทำตามสัญญาให้ได้นะ"

แล้วเพื่อนทั้งสองก็เข้าสวมกอดกันทั้งน้ำตาลูกผู้ชาย ทาเตวากิก็น้ำตาคลอเช่นกัน เมื่อเห็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่เข้มข้นซาบซึ้งเช่นนี้




วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การเปิดใจและการยอมรับ 139

atsuhime 139


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 138


เมื่อท่านมิยะมาถึงห้องหอ พลันเมื่อประตูถูกเปิดออก ท่านก็ต้องแปลกใจที่ในห้องไม่มีคนมานั่งคอยเฝ้าในห้องเหมือนเช่นเคย และที่ต้องแปลกใจอย่างที่สุดก็คือ ท่านคุโบได้นั่งรอในห้องอยู่ก่อนแล้ว

ท่านคุโบอิเอโมจิ "ไม่มีคนอื่นนอกจากเรา ท่านแม่เป็นคนจัดการให้น่ะ ข้ามีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดคุยกับท่าน กรุณาเข้ามาเถอะ"

ท่านมิยะดูค่อนข้างประหม่า แต่ก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาท่านคุโบ แล้วนั่งลง

ท่านคุโบลุกขึ้นมาแล้วมานั่งลงใกล้ๆภรรยา

"ตอนนี้ข้าจะเริ่มด้วยเรื่องที่ข้าคิดว่าสำคัญมากที่สุดก่อน.... การขับไล่ต่างชาติอาจจะไม่สำเร็จ แม้บะขุฝุจะเคยให้สัญญาเอาไว้ว่า จะขับไล่ต่างชาติให้หมดไปภายใน10ปี แต่ว่า..มันเป็นการแก้ปัญหาให้กับราชสำนักได้เพียงแค่ชั่วเวลานึงเท่านั้น เราคงจะยืนกรานปิดประเทศ อีกต่อไปได้ยาก"

ท่านมิยะเริ่มมีสีหน้าเศร้าระคนผิดหวัง

"จะเปิดประเทศ หรือจะทำลายชาติด้วยการทำสงคราม เราต้องเลือกไม่ทางใดก็ทางนึง"

"เรื่องนั้น.. ไม่มีืทางอื่นอีกแล้วหรือเจ้าคะ?" / "ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว"

ท่านมิยะยิ่งดูโศกศร้า แสดงถึงความผิดหวังที่ตนเองไม่คาดว่ามาได้ยิน

"ถ้าเพื่อประเทศญี่ปุ่น.... เพราะเพื่อประเทศญี่ปุ่น..... ข้าจึงได้..ตัดสินใจที่จะแต่งงานเข้าตระกูลโชกุนโทกุกาวะ" / "ขอรับ"

"แล้วจะยอมให้ประเทศนี่ถูกทำลายได้อย่างไรกัน ถ้าการขับไล่ต่างชาติจะเป็นสาเหตุที่จะทำให้ประเทศต้องล่มสลาย ตอนนี้มีทางเดียวก็คือ ต้องเลิกล้มความคิดเดิมซะ"

ท่านอิเอโมจิยิ้มและขยับเข้ามาใกล้ท่านมิยะ แล้วคว้ามือเธอขึ้นมากุมไว้ "ขอบคุณท่านมากนะ"

ท่านมิยะก้มมองมืือที่ถูกกุม ทำให้ท่านอิเอโมจิต้องรีบดึงมือกลับ และขยัีบตัวนั่งห่างออกไปอีก

"สำหรับเรื่องนี้ ข้าคิดว่าสักวันองค์จักรพรรดิก็จะเข้าใจ" / "แล้วทางบะขุฝุจะนำพาเสรีภาพมาสู่ประเทศนี้ได้มั้ยเจ้าคะ?"

"ข้าเองก็มั่นใจเช่นนั้น" / "ถ้าอย่างนั้น ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อพิสูจน์สิ่งนี้.. ไม่มีหนทางใดที่จะทำได้ดีกว่านี้อีกแล้ว"

"ไม่ใช่เพียงแค่นั้น!!"
ท่านอิเอโมจิชิงพูด จนท่านมิยะสงสัย

"ข้าจะถือว่า ท่านเป็นคนสำคัญของข้า ไม่สิ! จะทำให้ท่านมีความสุข" / "มีความสุข?"

"ยิ่งกว่าใครๆ ในฐานะภรรยา"


ด้วยสายตาที่จริงจังและคำพูดที่หนักแน่นของท่านคุโบ จากที่ท่านมิยะดูกังวลและไม่มั่นใจในตอนแรก ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มน่ารักมาแทนที่

ท่านคุโบเื้อื้อมไปแตะมือท่านมิยะอีกครั้ง ท่านมิยะเขินนิดแต่ไม่ว่ากระไร.. ท่านคุโบจึงเข้ามาโอบกอดท่านมิยะไว้ ท่านมิยะจึงซบหน้าแนบอกท่านคุโบ



--------------------------

เช้าวันรุ่งขึ้น ณ.ห้องพระ ทุกอย่างไม่เหมือนวันก่อน ท่านคุโบไหว้พระ ท่านมิยะก็ไหว้ตาม สร้างความแปลกใจให้กับท่านฮงจูอิน และฝ่ายสนมคังเงียอินที่เห็นบุตรสาวเกิดการเปลี่ยนแปลงท่าที

คงมีเพียงท่านเท็นโชอินเท่านั้นที่รู้และเข้าใจทั้งหมด

------------------------

สัทสุมะ ท่่านไซโกได้รับคำสั่งจากท่านฮิสสะมิสึให้เดินทางล่วงหน้าไปยังชิโิมโนเซกิ ทาเตวากิและท่านโอคุโบะได้มาส่งในวันออกเดินทาง..

----------------------

ต่อมาอีกหลายวัน

ตกค่ำที่บ้านโคมัทสึ

ทาเตวากินั่งหน้าเข้มก่อนจะเอ่ยปากกับศรีภรรยาว่า "นี่คือการไปสงคราม"

โอชิงะ "ไปสงครามงั้นเหรอเจ้าคะ?" / "เพื่อปกป้องราชสำนัก ปฏิรูปบะขุฝุ เปลี่ยนแปลงประเทศญี่ปุ่นครั้งใหญ่ อาจจำเป็นต้องถึงกับเสียสละชีวิต ขอให้เตรียมใจไว้ด้วย"

"ข้าไม่ยอมเจ้าค่ะ!" / "ไม่ยอม?"

"ถ้าต้องต่้อสู้ก็ต้องเอาชนะให้ได้ สัญญาสิว่าจะเอาชนะและมีชีวิตกลับมาให้ได้น่ะ ไม่เช่นนั้นภรรยาอย่างข้า จะไม่ยอมปล่อยให้ท่านไปเด็ดขาดเลย"


ทาเตวากินิ่ง ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น "เข้าใจแล้ว ข้าให้สัญญา ถึงต้องคลาน! ข้าก็จะกลับมา"

โอชิงะจากที่บึ้งตึงก็พลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม "เจ้าค่ะ!"
.
.

.
.

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แวะเข้ามาคุยขั้นเวลาก่อน

.
.

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ๆ เป็นปีที่ร้อนที่สุดจริงๆ แค่ฝนไม่ตกไม่กี่วันก็ร้อนตับแตก

ทำไมต้องใช้คำว่า ตับแตก? งงมั้ย??

ตับที่ว่าไม่ใช่ตับ ที่เป็นอวัยวะของร่างกายครับ แต่หมายถึงตับจาก ที่นำมาใช้มุงหลังคา หรือที่รู้จักกันคือหลังคามุงจาก

เวลาร้อนมากๆ แม้แต่ตับจาก ก็คือใบจากที่เย็บเรียงกันเป็นตับ ก็จะร้อนจนถึงขั้นแตกดังเปรี๊ยะๆ

------------------------

ผมไม่ได้เขียนบล้อคหลายวัน มัวแต่ไปตระเวนทัวร์ตั้งกระทู้ฮอตๆในเว็บอื่่น เพราะอากาศมันร้อน จึงไม่มีเวลาเขียนอะไรมาก เพราะมานั่งพิมพ์บนที่นอน ไม่ได้นั่งโต๊ะพิมพ์

เพราะอากาศมันร้อนนั่นแหล่ะครับ

ทีนี้พอไม่ได้นั่งพิมพ์ดีๆ มาพิมพ์บนเตียงนอน มันก็เมื่อย พิมพ์ไม่ถนัด เลยไม่ได้เขียนเจ้าหญิงอัตสึที่รักต่อสักที

ไม่รู้มีคนรออ่านเหลือสักกี่ึคน?

-------------------------

ยิ่งช่วงนี้บอลโลกมาแรง เวลาก็น้อยลง เพราะงานก็ยุ่ง บอลก็มันส์

อยากรู้มั้ยครับว่า ผมไม่เชียร์ทีมไหน?? และจะไม่เชียร์ไปตลอดชีวิตด้วย

ไว้ว่างๆจะเล่าให้ฟัง ว่ามีอยู่2ทีมที่ผมไม่มีวันเชียร์

------------------------


คุณศิริพร วงศ์สวัสดิ์



ทุกวันนี้แม้ผมจะมีภาระหนักจนต๊อแต๊! แต่เมื่อได้ดูโอชิน ทำให้ผมรู้สึกจิตใจดีขึ้นจริงๆ โอชินทำให้ผมมีกำลังใจเพิ่มขึ้น!! ขอขอบคุณช่อง3อีกครั้ง

เมื่อก่อนเสียงพากย์นางเอกโอชิน เมื่อ25ปีที่แล้ว คือเสียงพากย์ของคุณศิริพร วงศ์สวัสดิ์ นามสกุลเหมือนอดีตนายกฯคนนึง แต่มั่นใจได้คุณศิริพร รักสถาบันกษัตริย์ชัวร์

แต่เสียงโอชินวันนี้ ก็เป็นเสียงพากย์คู่หูกับคุณศิริพร มานมนาน เมื่อก่อนเธอก็พากย์เรื่องโอชินเหมือนกัน แต่ตอนนั้นพากย์เป็นลูกสาวบุญธรรมโอชิน



ก็คือคุณกรณิการ์ ประพัตรภักดี ผู้เคยพากย์เซียวเหล่งนึ่งยุคพี่หลิวเต๋อหัว ส่วนคุณศิริพรพากย์เป็นอึ้งย้ง

คุณกรณิการ์เสียงเพราะมาก พากย์จนถึงปัจจุบัน เช่นแดจังกึม และพากย์เป็นนางเอกละครเกาหลีเสาร์-อาทิตย์ของช่อง3ทุกเรื่อง และที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอพากย์เสียงโอคัตสึ หรือท่านหญิงโออัตสึ หรือท่านเท็นโชอินด้วย

ส่วนรุ่นพี่อย่างคุณศิริพร ก็วางไมค์ไปแล้ว

ผมจัดให้ช่อง3คือทีมพากย์อันดับ1ของไทยครับ โดยเฉพาะเสียงพากย์ฝ่ายหญิงประทับใจมากๆ ช่อง3ใช้ทีมพากย์หญิงส่วนใหญ่คราวละ 4คน

ส่วนทีมพากย์อาวุโสฝ่ายชาย คุณลุงกำธร สุวรรณปิยะ ผู้ล่วงลับจะอยู่ในใจผมตลอดไป แต่โชคดีที่ลุงกำธร ยังอยู่ได้ทันพากย์เรื่องโอชิน!! ใครคิดถึงเสียงลุงกำธร ก็ยังฟังได้ที่โอชินครับ

.
.

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มิตรภาพของนายและบ่าว138

atsuhime 138


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 137


ท่านหญิงมิยะกำลังเดินทางไปที่ห้องหอ

ระหว่างทางท่ามกลางแสงจันทร์สาดส่อง ท่านมิยะหยุดระหว่างทาง หันหน้ามองพระจันทร์ด้วยแววตาอาทร ก่อนที่จะค่อยๆหยิบกระจกเงา! ที่เก็บไว้ในอกเสื้อขึ้นมาส่อง แล้วใช้มือค่อยๆบรรจงลูบเส้นผมอย่างนุ่มนวลให้เข้าที่..

---------------------

"กระจก?!" ทาคิยามะถามขึ้นอย่างแปลกใจ "ถ้างั้นที่ซุกในอกเสื้อนั้นก็เพื่ือ..?"

ท่านเท็นโชอิน "ช่างน่าเอ็นดูจริงๆเลยว่ามั้ย?" / "อย่างนั้นเองเหรอเจ้าคะ"

"ข้ารู้สึกว่า ชักจะเอ็นดูนางขึ้นมาบ้างแล้วล่ะสิ"


ทาคิยามะค่อยๆก้มหัวอย่างหนัก!

"เป็นอะไรไปล่ะ?!"

"เพราะข้าไม่ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน จึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ไม่รู้จะขอโทษท่านเท็นโชอินอย่างไรดี"

"ก็ไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาอะไรสักหนอย" / "ไม่เจ้าค่ะ! คราวนี้เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง จะตำหนิข้ายังไงก็ยินดีน้อมรับเจ้าค่ะ"

ท่านเท็นโชอินมองทาคิยามะอย่างชื่นชม

"ท่านนี่เป็นผู้หญิงที่ยอดมากเลยนะ" / "เจ้าคะ??"

ท่านเท็นโชอินค่อยๆนั่งลงตรงหน้าทาคิยามะ

"เพราะมีท่าน คอยสอดส่องดูแลโอโอขุทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดีแบบนี้ ทุกคนก็เลยอยู่อาศัยกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข"

"อย่าพูดแบบนั้น ข้าเพียงแต่ทำงานในหน้าที่ที่ข้าสมควรจะต้องทำเท่านั้นเองเจ้าค่ะ ขอเพียงถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะให้กระดูกของข้าได้ฝังไว้ที่โอโอขุ.. อยู่ใกล้ๆท่าน"

"ดีใจเหลือเกิน ถ้าหากมีท่านอยู่ใกล้ๆ ข้าก็คงวางใจพอที่จะขอออกนอกกรอบได้บ้างนะ" / "อย่างนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ!! หัวเรือใหญ่ในโอโอขุอย่างท่านเท็นโชอิน คิดจะออกจากกรอบได้อย่างไร"


ท่านเท็นโชอินหัวเราะ
"ท่าทางดุๆแบบเดิมกลับมาซะทีนะ" / "ขอโทษที่เสียมารยาทเจ้าค่ะ" ทาคิยามะก้มหัวอย่างหนักอีกครั้ง

"ทาคิยามะ ว่าไง? นานๆสักครั้ง เราสองคนมา..." / "ทำแบบนั้นมัน.."

"ฉลองที่เราแก้ปัญหาเรื่องนั้นไง นิดหน่อยน่าา..นะ"


ทาคิยามะคิดอยู่ครู่ก่อนจะตอบแบบไม่เต็มปากเต็ม "นานๆครั้งออกนอกกรอบกันบ้างก็ดี"

"ใช่แล้ว ฉลองกันหน่อย.."


-----------------------

เมื่อท่านมิยะเดินทางไปถึงห้องหอ ท่านต้องแปลกใจในทันที เพราะ....?
.

วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มีดที่ซ่อนอยู่ 137

atsuhime 137


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 136


ท่านเท็นโชอินและท่านมิยะได้เผชิญหน้ากันเพียงลำพัง ปราศจากผู้อื่นร่วมด้วย (แต่ก็นั่งกันอยู่หน้าห้อง)

ท่านเท็นโชอินเริ่มทักทายอย่างอ่อนโยน "ตั้งแต่มาอยู่เอโดะสบายดีมั้ย?" / "เจ้าค่ะ"

"แล้วอาหารล่ะ อร่อยถูกปากมั้ย?" / "เจ้าค่ะ"

"หากมีอะไรไม่พอใจหรือทำให้ลำบาก ขอให้บอกข้าได้ทุกเวลาเลยนะ" / "เจ้าค่ะ"

"อะไรๆ ก็เจ้าค่ะอย่างเดียวเลยนะ" / "......!?......"

"งั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ลือกันว่าท่านพกมีดพกเข้าไปในห้องนอนด้วย เป็นเรื่องจริงหรือเจ้าคะ?"


องค์หญิงขยับมือไปแตะที่อกเสื้อ "เรื่องที่ท่านพูด ข้าไม่เคยทำ"

"ที่อกเสื้้อนั่นท่านซ่อนอะไรไว้เหรอเจ้าคะ?" / "ไม่มีอะไรเลย"

ท่านเท็นโชอินยิ้ม "งั้นข้าขอเสียมารยาท!" / "จะทำอะไรน่ะ!!?"

ท่านเท็นโชอินจู่โจมเข้าไปที่ท่านมิยะทันที เพื่อจะค้นหามีดในอกเสื้อของนาง!!

"อย่าเข้ามานะ!!"

เสียงการฉุดดึงกัน และเสียงของทั้งสองคนดังออกไปถึงข้างนอกห้อง ทำให้พวกที่อยู่นั่งอยู่หน้าห้องทั้งสองฝ่ายรีบเข้ามาในห้องทันที

นิวาตะร้องตะโกนห้ามก่อนคนแรก สนมคังเงียวอินก็ตะโกนช่วยอีกแรง แต่ก็ไม่อาจห้ามให้ท่านเท็นโชอินหยุดได้ คนติดตามของทั้งสองฝ่ายพยายามเข้าไปแยกคนทั้งสอง จนกระทั่งทั้งสองคนล้มลง

และแล้ว....

-----------------------

สิ่งที่ท่านแม่สามีต้องการพิสูจน์หาจากลูกสะใภ้ ก็ได้หลุดหล่นลงมาที่พื้นให้ทุกคนได้เห็น!

ท่านมิยะรีบคว้าสิ่งนั้นเข้ามากอดไว้! ไม่ให้ใครเห็นอีก

ทุกคนในห้องต่างตกตะลึง! ท่านเท็นโขอินรีบลุกขึ้นมา

ดูเหมือนท่านมิยะจะตกใจและประหม่าตามประสาหญิง เพราะสิ่งนั้นคือ.....??

"ที่เอาไปในห้องนอน คือสิ่งนี้เองเหรอ??"

ท่านมิยะพยายามเก็บซ่อนความขวยไว้ สนมคังเงียวอินนั่งลงเอามือแตะไหล่ลูกสาว

ท่านเท็นโชอินยิ้ม "เป็นอย่างนี้นี่เอง..."

-------------------------

ต่อมา

ท่านคุโบ
"คุยกับท่านมิยะเหรอขอรับ?" / "เจ้าค่ะ ความจริงที่ท่านคิดว่าการขับไล่ต่างชาติเป็นเรื่องยากน่ะ" ท่านเท็นโชอินกล่าว

"แต่ว่า.." / "พวกท่านเป็นสามีภรรยากันแล้วนะเจ้าคะ แล้วทำไมไม่พูดความรู้สึกที่แท้จริงต่อกันล่ะเจ้าคะ"

"ถึงเป็นสามีภรรยากัน แต่ก็เป็นแค่ภาพภายนอก แค่ในนามเท่านั้น" / "ก็เพราะอย่างนั้นเจ้าค่ะ เพราะอย่างนั้นก็ต้องยิ่งเปิดใจคุยกัน! ท่านมิยะน่ะจะเข้าใจท่านอย่างแน่นอน"

"ทำไมท่านแม่ถึงเชื่อเช่นนั้นล่ะขอรับ?" / "ก็เพราะเชื่อน่ะสิ... ยังไงก็ตาม ต้องคุยกันให้ได้ และนี่คือ คำสั่งของของข้าซึ่งเป็นแม่ของท่านนะ!!"

ท่านเท็นโชอินแกล้งทำตาดุใส่ท่านคุโบ ท่านคุโบยิ้ม...
.
.

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สวรรค์ลิขิตรัก Love in Heaven

.
.

วันนี้ผมขอเขียนเรื่องสบายๆสักเรื่อง ก็เกี่ยวกับละครเกาหลีตามชื่อบทความ

ไม่ทราบว่ามีคุณผู้อ่านได้เคยชมเคยดูเรื่อสวรรค์ลิขิตรักกันบ้างมั้ยครับ เพิ่งจะจบไปไม่นาน ออกอากาศทางช่อง3นานหลายเดือน ตอนบ่ายโมงจันทร์-ศุกร์

เป็นละครที่ดีมากๆอีกเรื่องนึง แม้เนื้อเรื่องจะดูน้ำเน่านิดๆ ประเภทพลัดพราก แม่พลัดพรากกับลูก แต่ละครเรื่องนี้ก็ดูสนุก และดูได้อย่างมีความสุขทีเดียว

ทั้งๆที่เนื้อเรื่องน่าจะดูเศร้า แต่เพราะคนแต่ง คนเขียนบทเขาเจ๋งจริง ทำให้ละครไม่รู้สึกเศร้าอะไรมากนัก แต่กลับสนุกและขำซะมากกว่า เรียกได้ว่าดูได้อย่างสบายๆใจ

เรื่องรายละเอียดของการใช้ชีวิตประจำวันของคนเกาหลี ครอบครัวเกาหลีทั่วไป มีสอดแทรกอยู่ตลอดเรื่อง เหมือนกับเรื่องกิมซุน ที่ไม่บกพร่องเลยในจุดนี้


-------------------------

แต่บทความของผม จะขอยกตัวอย่าง ฉากที่ผมประทับใจครับ

แม่ผู้ที่พลัดพรากจากลูกสาว(นางเอก) ได้ตามหาลูกสาวจนพบ แต่ไม่บอกกับลูกสาวว่าตนเป็นแม่ที่แท้จริง

ในปัจจุบันแม่ร่ำรวยมาก ส่วนลูกสาวกลับยากจน ทำงานเป็นช่างแต่งหน้าฝีมือดี ที่ถูกแม่เลี้ยงขูดเลือดปู ผู้เป็นลูกเลี้ยงประจำ

วันหนึ่งแม่แท้ๆของนางเอก มาในสภาพไม่ให้ดูออกว่าตนร่ำรวย และได้ลองไปทำเสริมสวยในร้านที่นางเอกทำงานอยู่เป็นครั้งแรก เพื่อให้นางเอกได้แต่งหน้าให้

แม่ของนางเอกแกล้งซุ่มซ่ามทำแก้วน้ำหกรดบนโต๊ะเครื่องแป้งของนางเอก

และเมื่อตอนแต่งหน้าเสร็จแล้ว แม่แท้ๆนางเอกก็แกล้งบอกนางเอกว่า ไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา!!

คุณผู้อ่านลองคิดดูว่า ทำไมแม่นางเอกถึงทำกับลูกสาวของตัวเองแบบนี้ครับ? ย้ำ!นางเอกไม่รู้จักแม่แท้ๆของตน

-------------------------------

การมาขอใช้บริการแต่งหน้าครั้งแรก ดันเจอลูกค้าที่ซุ่มซ่ามทำน้ำหกก็ยังพอทน แต่แถมยังไม่มีเงินจ่ายค่าบริการให้อีก หากเป็นเราๆท่านๆ คงโมโหและเหม็นหน้าลูกค้าคนนี้แน่ๆ

และที่แม่นางเอกแกล้งทำเช่นนั้น ก็เพราะต้องการทดสอบจิตใจของนางเอกว่า เธอเป็นคนดีหรือไม่??(เพราะตนไม่ได้เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ)

คำตอบก็คือ นางเอกเป็นคนดีแท้จริง ไม่โกรธ และพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างจริงใจเหมือนเดิม และไม่ว่ากล่าวอะไรที่ลูกค้าไม่มีเงินจ่าย ยินยอมให้กลับบ้านไปก่อนได้

แม่นางเอกจึงบอกว่า หากผ่านมา จะแวะมาจ่ายให้ นางเอกก็แสนดี ไม่ว่าอะไร??

ในสถานการณ์ของนางเอก หากเราได้ดูมาก่อนหน้านั้นจะรู้ว่า นางเอกจนมากๆ เพราะถูกแม่เลี้ยงรีดไถเงินจนแทบไม่เหลือ เพราะแม่เลี้ยงก่อหนี้สินจากการพนันไม่หยุดหย่อน

สภาพที่ขาดแคลนเงิน แต่นางเอกก็ไม่โกรธที่ลูกค้าทำตัวแย่ๆใส่

สิ่งนี้เอง ทำให้แม่แท้ๆของนางเอกทั้งดีใจและเสียใจ ที่ลูกสาวของตนช่างเป็นคนดีมากๆ แต่กลับต้องมาลำบากเช่นนี้..
.
.

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผลกระทบที่บ้านโอคัตสึ136

atsuhime 136

อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 135


ยามค่ำท่่านมิยะได้รอการมาของท่านคุโบ แต่ดูเหมือนท่านมิยะจะจับอะไรที่ซ่อนไว้ในอกเสื้ออยู่ เมื่อถึงเวลาท่านคุโบก็ไปค้างคืนกับท่านมิยะตามกำหนดการ แต่ว่า....

------------------------

ในเวลาเดียวกันที่สัทสุมะ ทาเตาวากิได้รับคำสั่งจากท่านฮิสะมิสึว่า ท่านต้องการจะส่งลูกชายคนที่5ไปเป็นเจ้าบ้านคนใหม่ของบ้านอิไมสุมิชิมะสึ (ด้วยวิธีการส่งให้ลูกชายไปเป็นบุตรบุญธรรมบ้านอิไมสุมิ)

แม้ทาเตวากิจะท้วงว่า ที่บ้านอิไมสุมิก็มีเจ้าบ้านสมบูรณ์อยู่แล้ว ทำไมท่านฮิสะมิสึต้องส่งลูกตนไปเป็นบุตรบุญธรรมที่นั่นด้วย

คำตอบที่ท่านฮิสะมิสึให้แก่ทาเตวากิก็คือ "ถ้าหากคิดว่าต้องยกพลไปเกียวโต ข้าคิดว่าจะต้องมีคนที่ีไม่เห็นด้วยกับวิธีการของข้าออกมาอย่างแน่นอน"

ทาเตวากิ "ท่านหมายถึงคนของบ้านอิไมสุมิชิมะสึอย่างนั้นรึขอรับ?"

"เราไม่มีทางรู้เลยว่า มันจะก่อตัวขึ้นที่ไหนหรือเมื่อไหร่.... ข้าเคยพูดแล้วใช่มั้ยว่า ข้าเป็นคนที่ไม่ยอมเชื่อใจใครง่ายๆ เจ้าจงนำเรื่องนี้ ไปแจ้งทางนั้นด้วย"

-----------------------------

กล่าวโดยสรุปก็คือ อนาคตสัทสุมะอาจเป็นศัตรูกับเอโดะ ซึ่งรวมถึงท่านเท็นโชอินด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีปัญหาในแคว้น ท่านฮิสะมิสึจึงจำต้องส่งลูกชายไปเป็นเจ้าบ้านอิไมสุมิชิมะสึแทนทาดายูกิ พี่ชายของท่านเท็นโชอิน

--------------------------

ท่ามกลางสายฝนที่กำลังกระหน่ำ

ทาเตวากิได้นำคำสั่งจากท่านฮิสะมิสึไปแจ้งที่บ้านอิไมสุมิ ทาเตวากิก้มหัวทำการขอโทษอย่างหนักให้แก่ท่านโอยูกิ และทาดายูกิ

ท่านแม่โอยูกิ กล่าวบอกทาเตวากิว่าไม่ต้องขอโทษหรอก ท่านเข้าใจ ซ้ำยังบอกต่ออีกด้วยว่า ทาดายูกิก็เข้าใจและพร้อมทำตามคำสั่งของท่านพ่อเมืองอยู่แล้ว

ทาดายูกิ กล่าวติดตลกว่า อายุแค่นี้ก็ต้องมาเกษียณเสียแล้ว แต่ในใจนั้นทุกคนต่างรู้ดีว่า เขาเจ็บปวดมากที่ต้องยอมสละตำแหน่งเจ้าบ้านอิไมสุมิให้แก่ลูกชายของท่านฮิสะมิสึ

ทาเตวากิยังแจ้งข่าวอีกว่า ตนจะตามท่านฮิสะมิสึยกพลไปเกียวโต และอาจจะเลยไปที่เอโดะด้วย

ทาดายูกิ ยังถามด้วยว่า "ไปพร้อมไซโก กับโอคุโบะใช่มั้ย? ถ้าไปเอโดะ ฝากความคิดถึงถึงโอคัตสึด้วยล่ะ"

แล้วทาดายูกิก็ลุกออกจากห้องไป

ท่านโอยูกิ ได้ถามทาเตวากิต่ออีกว่า
"ได้ข่าวลือมาว่าจะมีการขนปืนและปืนใหญ่ไปด้วย" / "ขอรับ..คือ.."

"ถ้าเป็นอย่างนั้น ฐานะของโอคัตสึจะเป็นอย่างไรบ้าง?"
(ชิโนะที่นั่งฟังอยู่ข้างนอก ก็พลอยห่วงคุณหนูของตนไปด้วย)

"คือ.." / "จะมีอะไรที่ทำให้เด็กคนนั้นต้องลำบากหรือเปล่า?"

ทาเตวากิอ้ำอึ้ง

"อ้ะ..ต้องขอโทษด้วย ต้องขอโทษท่านจริงๆ อดห่วงลูกไม่ได้น่ะ ก็เลย.. ขอท่านอย่าได้กังวลใจเลยนะ"

ท่านโอยูกิจรดมือสามเหลี่ยม "ยังไงก็ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ"

ทาเตวากิก้มหัวอย่างหนัก "ขอบพระคุณมากขอรับ"

เมื่อทาเตวากิกำลังจะเดินออกจากบ้านอิไมสุมิ ก็เผอิญไปพบทาดายูกิกำลังร้องไห้และตะโกนเสียงดังอยู่ท่ามกลางสายฝน ทาดายูกิทำได้แค่เพียงใช้ดาบไม้ฟันใส่ต้นไม้อย่างรุนแรงเพื่อระบายความอัดอั้น ความเสียใจที่มีอยู่..

---------------------------

เช้าวันรุ่งขึ้น ทาคิยามะรีบนำข่าวมาแจ้งท่านเท็นโชอิน

ทาคิยามะ "แย่แล้วเจ้าค่ะ!!"

ท่านเท็นโชอิน "มีเรื่องอะไรเหรอ? คงไม่ใช่.." / "เจ้าค่ะ! เมื่อเช้านี้มีคนบอกว่า ได้เห็นมีดพกของท่านคะสึโนะมิยะอีกแล้วเจ้าค่ะ"

ท่านเท็นโอชินลุกขึ้นยืนทันที!

"จงรีบไปบอกท่านมิยะเดี๋ยวนี้ ว่าข้ามีเรื่องอยากพูดคุยด้วยเพียงลำพัง" / "แต่อย่างไรก็.."

"งั้น!ข้าจะไปพบเอง!"
.
.

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความโกรธของท่านฮิสะมิสึ 135

atsuhime 135


อ่านเจ้าหญิงอัตสึที่รัก 134


ที่สัทสุมะ ขณะนี้ท่านไซโก คิชิโนะสุเกะ ได้เข้ามาพบกับท่านฮิสะมิสึตามคำสั่ง โดยมีทาเตวากิ และท่านโอคุโบะ นั่งอยู่ข้างๆด้วย และหลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายเมื่อครั้งหนีตายร่วมกับท่านเก็ชโช จนท่านเก็ชโชต้องมรณภาพไป บัดนี้ท่านไซโกดูเคร่งขรึมขึ้น

เมื่อท่านฮิสะมิสึเข้ามาในห้องแล้ว ก็ได้เริ่มถามความเห็นของท่านไซโก ว่า คิดอย่างไรที่สัทสุมะจะยกทัพไปเมืองหลวง? ซึ่งท่านไซโก็ตอบด้วยน้ำเีสียงที่เรียกเฉย อย่างตรงๆไปว่า "เป็นความคิดที่ไม่รอบคอบเลย ควรจะยกเลิกเสีย"

เมื่อท่านฮิสะมิสึได้ยินเช่นนั้น ก็มีสีหน้าเจื่อนลงไป เพราะผิดหวังและเหมือนถูกท่านไซโกดูถูกความคิด

แถม!ท่านไซโกยังบอกต่ออีกว่า "ได้ยินมาว่า ท่านจะไปรับคำสั่งเรื่องการปฏิรูปการปกครองจากจักรพรรดิ จึงตั้งใจจะไปเอโดะ แต่ว่า! ถึงกระนั้น ท่านฮิสะมิสึก็ไม่ใช่เจ้าแคว้น(เพราะลูกเป็น) ไม่มีอำนาจ และมีความสัมพันธ์กับไดเมียวคนอื่นน้อยมาก แม้จะไปที่เอโดะ ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี"

ท่านฮิสะมิสึเริ่มจะโกรธ ท่านโอคุโบะเห็นดังนั้นจึงพยายามบอกกับท่านไซโกว่า เรื่องไปเิอโดะ สัทสุมะได้รับอนุญาตจากทางบะขุฝุแล้ว แต่ท่านไซโกก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี โดยแนะนำให้บอกบะขุฝุกลับไปว่า ทางสัทสุมะเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อยขอเลื่อนไปก่อน

ท่านฮิสะมิสึ ที่กำลังเดือดปุดๆแต่พยายามสงบอารมณฺไว้ ถามขึ้น "เลื่อนออกไปรึ?"

ไซโก "ท่านต่างจากท่านนาริอาคิระ ขออภัยที่ต้องพูดว่า ท่านฮิสะมิสึก็แค่คนบ้านนอกคนนึง" / "แค่คนบ้านนอกคนนึงเร๊อะ!!"

"ท่านคงไม่ทราบถึงสถานการณ์ที่เอโดะ ก่อนอื่นควรรู้ทิศทางของบ้านเมืองให้ชัดเจนเสียก่อน แล้วค่อยหาเวลาที่เหมาะสมจะดีกว่าขอรับ"


ท่านฮิสะมิสึพยายามข่มใจ และบอกให้ท่ายไซโกกลับไปก่อน แต่เมื่อท่านไซโกกลับไปแล้ว ท่านฮิสะมิสิก็ถึงจุดเดือด! ระเบิดอารมณ์ด้วยการหักกล้องยาสูบทิ้ง!

ทาเตวากิ กับท่านโอคุโบะรีบขออภัยแทนเพื่อน และยังบอกว่า ถึงยังไงท่านไซโกก็จะต้องทำประโยชน์เพื่อสัทสุมะได้แน่

--------------------------------

เมื่อท่านไซโกกลับไปถึงบ้าน ท่านโอคุโบะก็ตามไปพูดคุยด้วย

โอคุโบะ "เพราะเชื่อท่านคิชิโนะสุเกะพูด ท่านฮิสะมิสึจึงยอมเลื่อนการเดินทางออกไป" / "งั้นเหรอ"

และท่านโอคุโบะจึงอธิบายต่ออีกว่า ท่านฮิสะมิสึมีความปรารถนาที่จะปฏิรูปการปกครองของรัฐบาลบะขุฝุ โดยร่วมมือกับไดเมียวคนอื่นๆ แต่ท่านไซโกก็ยังดูเหมือนไม่สนใจคำพูดของท่านโอคุโบะเท่าที่ควร

"ใช่แล้ว!! ก็เรื่องที่ท่านนาริอาคิระเคยพูดนั่นแหล่ะ" (ท่านไซโกมีหันมามองนิดนึง)

"ท่านฮิสะมิสึเคารพท่านนาริอาคิระจริงๆ แล้วเราไม่อยากทำให้ความหวังของนายท่านให้สำเร็จรึ!?"

"พอได้แล้ว" ท่านไซโกลุกขึ้นเดินหนี

"ท่านคิชิโนะสุเกะ!!?"

ท่านไซโกหยุด "จะไปเกียวโต หรือจะตกนรก อาจจะไม่ต่างกันก็ได้"

"ถ้าอย่างนั้น เราไปด้วยกันนะ!"

ท่านไซโกเพิ่งจะยิ้ม "ก็ท่านเล่นพูดแทงใจดำข้า เรื่องความหวังของท่านนาริอาคิระแบบนี้ ข้าจะปฏิเสธได้ยังไง"

ท่านโอคุโบะดีใจอย่างมากเมื่อได้ยิินคำตอบจากเพื่อนรัก ถึงกับกระโดดโลดเต้นดึงไม้ดึงมือท่านไซโกยกใหญ่ จนท่านไซโกต้องร้องบอกว่า "พอได้แล้ว!!ๆ"

----------------------------

ที่โอโอขุ นางในได้มาแจ้งข่าวแก่ท่านมิยะว่า ท่านคุโบจะมาค้างด้วยในคืนนี้

นิวาตะถึงกับถอนหายใจแล้วบ่นแทน "เฮ่อ..อีกแล้วรึนี่"

เมื่อท่านมิยะออกมาจากหลังม่านบังตา สนมคังเงียวอินได้เข้าไปถามท่านมิยะว่า "เรื่องนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิดใช่มั้ยเพคะ?"

(คนจากราชสำนักยังใช้คำราชาศัพท์กับท่านมิยะเช่นเดิม)

"ก็เรื่องที่มีคนบอกว่า องค์หญิงแอบพกมีดไว้ในอกเสื้อน่ะเพคะ?" / "จะทำแบบนั้นได้ยังไง" ท่านมิยะปฏิเสธ

"พูดจริงๆนะเพคะ?" / "พูดจริงสิ"

นิวาตะ "เฮ่อ..จะไปใส่ใจกับคำพูดพวกเอโดะทำไมกัน เฮ่อ....ถ้าข้าทำแทนองค์หญิงได้ ข้าทำแทนไปแล้ว.."

นางกำนัลฟูจิโกะ "ถึงจะทำแทนทุกอย่างได้ แต่คิดว่าบางอย่างก็คงจะไม่ไหวแล้วล่ะเจ้าค่ะ"

นิวาตะรู้ทัน จึงจ้อง ทำตาดุใ่ส่หน้่านางกำลัลฟูจิโกะ จนนางต้องรีบเอ่ยปากขอโทษ

ส่วนท่านมิยะก็ยังคงเงียบขรึมและดูเศร้าๆเช่นเดิม

------------------------

ส่วนทาคิยามะก็ไปแจ้งกำหนดการเรื่องท่านคุโบจะไปค้างที่ห้องพักท่านมิยะ ให้ท่านเท็นโชอินรับทราบ ซึ่งทาคิยามะก็ยังบอกอีกว่า ยังได้กำชับคนให้เฝ้าระวังเรื่องมีดพกให้ดี

ท่านเท็นโชอิน "ถึงกระนั้นก็เถอะ พอได้ยินว่าท่านจะไปค้าง ข้ากลับรู้สึกเงียบเหงาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ"

ทาคิยามะ "คงเป็นการยืนยันความรู้สึกของคนเป็นแม่น่ะเจ้าค่ะ" / "ของแม่เหรอ?"

"ความรู้สึกที่มีต่อลูกชาย เคยได้ยินว่าเป็นแบบนี้ล่ะเจ้าค่ะ"

"ไม่หรอก คงเป็นความรู้สึกเหงาของผู้หญิงต่างหาก.. ระยะนี้ข้ามักจะคิดถึงท่านพี่ออยู่บ่อยๆ"

"หญิงสาวที่อยู่ในโอโอขุนั้น มีมากมายที่ต้องอยู่โดยไม่มีคนรักเลยจนชั่วชีวิตเจ้าค่ะ"


"อุ้ย..จริงด้วยสินะ" เมื่อท่านเท็นโชอินได้ยินคำพูดของทาคิยามะดังกล่าว ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ และรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ตนพูดความรู้สึกตัวเองออกไปเช่นนั้น ต่อหน้าผู้หญิงที่น่าสงสารในโอโอขุอย่างเช่นทาคิยามะ และชิเงโนะ

"ข้าขอตัวก่อน จะไปตรวจสอบเรื่องมีดพกอีกครั้งเจ้าค่ะ"

ท่านเท็นโชอินถึงกับขมวดคิิ้้วทันที เมื่่อทาคิยามะกล่าวเช่นนั้น...
.
.
.
.
.
.

ผู้ติดตาม