เนื่องจากผมเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เรื่องเพลงลูกทุ่งสำหรับผม ก็อาจไกลตัวไปนิด แต่ก็ไกลไม่มาก เพราะในยุคสมัยเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ความบันเทิงของคนไทยก็ไม่มีอะไรมากมายเหมือนในสมัยยุคดิจิตอลนี้
เวลามีเพลงลูกทุ่งเพลงไหนโด่งดังขึ้นมา ก็จะรับรู้ไปทั่วประเทศทั่วถึงกัน เพราะสื่อในตอนนั้นมีทีวีก็ไม่กี่ช่อง แล้วคนต่างจังหวัดคือคนส่วนใหญ่ของประเทศ ก็ย่อมทำให้เพลงลูกทุ่งดังมาถึงคนกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้เป็นแฟนเพลงลูกทุ่งพันธุ์แท้อย่างผมได้ไม่ยาก
ซึ่งแม้ทุกวันนี้หากเพลงลูกทุ่งเพลงไหนที่ดังจริง ก็ยังดังไปทั่วประเทศจนคนกรุงเทพฯ ได้ยินติดหูเช่นกัน
ถามว่า ผมร้องเพลงลูกทุ่งได้ไหม ?
เอาเป็นว่า ผมเป็นคนกรุงเทพฯ แท้ ๆ คนนึงที่หัดร้องเพลงลูกทุ่งในวัยเด็ก จนได้สำเนียงเป็นลูกทุ่งแท้ ๆ ก็นับว่าพอใช้ได้ครับ (ผมร้องเพลงเก่งเฉพาะตอนเด็กเท่านั้นพอโตขึ้นไม่ได้ร้องเพลงแล้ว)
แม้ผมจะไม่ใช่คนต่างจังหวัด แต่ผมก็รักความเป็นชนบทของไทยอย่างมาก เพราะพ่อผมก็ลูกชาวนา ผมเองก็ไปท้องไร่ท้องนาบ้านปู่ย่าเป็นประจำในวันหยุดเสาร์อาทิตย์
แปลง่าย ๆ คือ ผมมีเชื้อสายของชาวนา ผมเคยขี่ควายขณะลุงกำลังไถนา ดังนั้น แม้ผมจะเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด แต่ผมโคตรรักทุ่งนา และบรรยากาศชนบทสุด ๆ ครับ
อย่างผมเคยดูหนังเกี่ยวกับชีวิตชาวนาของเชิด ทรงศรี บทประพันธ์ของไม้ เมืองเดิมทีไร ผมนี่ต่อมน้ำตาแตกทุกเรื่องครับ
แล้ว ควายไทย ก็คือ สัตว์ที่ผมรักที่สุด เพราะผมได้อิทธิพลมาจากเด็กเลี้ยงควายอย่างพ่อผมได้ปลูกฝังให้
ดังนั้น เพลงลูกทุ่ง ก็คือเพลงที่ผมรักเช่นกัน แม้จะไม่ใช่แนวเพลงสายหลักที่ผมนิยมเปิดฟังก็ตาม
-----------------------------
ผมรู้จักชื่อเสียง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ครั้งแรกเมื่อไหร่ ?
ผมมาได้ยินชื่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ และได้รู้จักนักร้องลูกทุ่งคนนี้จริง ๆ ก็เมื่อเธอดังจากเพลง สาวนาสั่งแฟน เพราะเพื่อนสมัยเด็ก ๆ แถวบ้านผม ร้องแหกปากให้ได้ยินเป็นประจำ
แล้วพุ่มพวง ดวงจันทร์ เธอก็ได้มาออกรายการ รวมดาวสาวสยาม ของคุณวิญญู จันทร์เจ้า ที่ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย 2 โมง (ถ้าเวลาผมจำไม่ผิดนะ)
คือรายการรวมดาวสาวสยาม เป็นรายการวาไรตี้ที่มีพิธีกรหญิง 3 คนคือ วิญญู จันทร์เจ้า อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา และ โฉมฉาย ฉัตรวิไล เป็นผู้ดำเนินรายการ
ซึ่งรายการรวมดาวสาวสยาม ถือเป็นรายการที่ดังมากในยุคนั้น แล้วรายการได้นำพุ่มพวง ดวงจันทร์ มาโปรโมท ด้วยการให้พุ่มพวง ดวงจันทร์มาออกรายการแทบทุกอาทิตย์ คล้าย ๆ ให้เธอมาเป็นผู้ช่วยพิธีกร และร้องเพลงของเธอในรายการนี้บ่อยมาก
ตอนนั้นผมจำได้ประมาณว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์ ตอนที่เพิ่งจะโด่งดังใหม่ ๆ จะมาในรายการด้วยบุคลิกที่เรียบร้อยมาก แต่งตัวเรียบร้อยมาก เช่นใส่กระโปรงยาว เสื้อเชิ๊ตแขนยาว ดูเรียบร้อยน่ารักเหมือนครูสาวบ้านนอกเลยครับ
-------------------
พุ่มพวง ดวงจันทร์ ดังสุด ๆ เมื่อไหร่
คำตอบคือ เมื่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้ร้องเพลง "กระแซะเข้ามาซิ" ของครูลพ บุรีรัตน์ ซึ่งเพลงนี้นับว่าดังสุด ๆ ที่ทำให้ทุกชนชั้นทั้งไฮโซ ไฮซ้อ ดอกเตอร์ คุณหญิงคุณนาย นายทหาร พ่อค้าและประชาชนทุกคน ต่างรู้จักเพลงนี้แบบร้องตามกันได้ทั้งประเทศกันเลยครับ
เพราะเพลงกระแซะเข้ามาซิ ถือเป็นการเปิดศักราชเพลงลูกทุ่งแนวสตริงแดนซ์ ที่พุ่มพวง เธอร้องและเต้นด้วยลีลาที่สุดยอดมาก
และ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็คือนักร้องลูกทุ่งคนแรกที่เปิดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่โรงแรมดุสิตธานี ต่อหน้าพระพักตร์ของ พระองค์องค์โสม และพระองค์ภา (หาชมคลิปนี้ได้ในยูทูป)
ถึงขนาด ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ผู้ประกาศข่าวและบุกเบิกการรายงานข่าวยุคใหม่ของไทยทางช่อง 9 อสมท. ยังเคยพูดว่า ผมเปิดเทปอัลบั้มชุดนี้ของพุ่มพวง ฟังในรถ จนเทปยืด จนต้องซื้อเทปใหม่มาเปลี่ยนอีกหลายม้วน
(ดร.สมเกียรติ เป็นชาวสุพรรณบุรี เหมือนพุ่มพวง ดวงจันทร์ จึงชื่นชมพุ่มพวงแบบสุดตัว)
ตอนที่เพลงกระแซะเข้ามาซิ กำลังดังสุด ๆ ผมเพิ่งขึ้น ม. 1
แล้วตอนเปิดเทอม 2 ของ ม. 1 ในวันแรก มีเพื่อนนักเรียนชายของผมคนนึง มันรีบมาเล่าให้ผมฟังทันทีว่า ตอนปิดเทอมที่บ้านมันคือ ลพบุรี มันได้ไปดูวงดนตรีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์มาแสดงสด
เพื่อนผมมันเล่าถึงการแสดงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ อย่างหลงใหลแบบถึงขั้นหลงรักเลย ทั้ง ๆ ที่เดิมมันเป็นลูกหลานคนจีนที่ไม่เคยสนใจเพลงลูกทุ่งเลย แต่พอมันได้ดูพุ่มพวง ดวงจันทร์แสดงสดแค่ครั้งเดียว มันก็ถึงขั้นหลงรักพุ่มพวงแบบสุด ๆ ชมแล้วชมอีกว่า พุ่มพวง สวยเหลือเกิน แถมยังตลกมาก ๆ ร้องเพลงก็เพราะทุกเพลง
โห เด็ก ม. 1 อายุแค่ 12 ขวบ หลงรักพุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ ตอนนั้นผมคิดในใจ
ผมนี่อึ้งไปเลย !!
-----------------
เมื่อเพลงที่ไม่น่าดังคือ เพลงตัํกแตนผูกโบว์ เริ่มดัง
ตอนผมไปเข้าค่ายลูกเสือ ผมจำไม่ได้แน่ชัดว่า ตอน ม. 2 หรือ ม. 3 กันแน่ แต่ตอนนั้นเพลงตั๊กแตนผูกโบว์ เริ่มโด่งดัง เพราะพวกเพื่อนผมมันร้องกันได้หมดเลย
ผมนี่งงมาก เพราะตอนนั่งประชุมลูกเสือ จะมีการร้องรำทำเพลงกัน แล้วเพลงตั๊กแตนผูกโบว์กลายเป็นเพลงฮิตในตอนนั้น ผมถึงจำได้มาจนวันนั้
ตอนผมได้ยินเพลงตั๊กแตนผูกโบว์ครั้งแรก ผมไม่ชอบเลยนะเพลงนี้ เพลงอะไรวะ เกี่ยวกับตั๊กแตน เนื้อเพลงก็งง ๆ สำหรับผมมาก
แต่ที่ไหนได้ นักร้องระดับ พุ่มพวง ไม่ว่าจะร้องเพลงอะไร มันก็ดังไปเสียหมด เพลงตั๊กแตกผูกโบว์ ก็เป็นอีกเพลงที่ดังมาจนวันนี้
------------------
วาระสุดท้ายของพุ่มพวง ที่น่าเสียดาย
ช่วงที่พุ่มพวง ดวงจันทร์ป่วยด้วยโรคเอสแอลดี จนมีอาการตัวบวม น้ำท่วมปอด ผมเสียดายอย่างเดียวที่ปัญหาความขัดแย้งของญาติพุ่มพวง ได้ทำให้พุ่มพวงไม่ได้รับการรักษาโรคให้ถูกวิธีเท่าที่ควร
ซึ่งโรคเอสแอลดี ที่ทำให้เกิดอาการหน้าบวมตัวบวมนั้น น่าจะเกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดอาการไตวาย เพราะภูมิคุ้มกันตัวเองได้ไปทำลายไต จนเกิดสภาวะไตทำงานบกพร่อง จนถึงขั้นไตวาย แล้วเกิดสภาวะน้ำเกินในร่างกาย
หากพุ่มพวง ดวงจันทร์ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เธอไม่น่าจะตายและน่าจะมีชีวิตอยู่ต่อมาจนวันนี้ได้อย่างสบาย ๆ ครับ เพราะมีผู้ป่วยโรคเอสแอลอีแบบพุ่มพวงในยุคนั้นคือ พ.ศ. 2535 ได้เข้ารับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมกันเยอะแยะแล้ว
ผมเสียดายจริง ๆ
พุ่มพวง ดวงจันทร์ เธอได้หมดสติแล้วไม่ได้สติอีกเลย หลังจากที่เธอบ่นว่าอยากไปไหว้พระพุทธชินราชที่ จ.พิษณุโลก
หลังจากพุ่มพวง ได้ก้มตัวไหว้องค์พระพุทธชินราช เธอก็หมดสติไป และเธอก็ไม่ตื่นคืนสติอีกเลยจนกระทั่งเสียชีวิต
ซึ่งในความเห็นของผม ผมว่า พุ่มพวง เธอไปดี ไปสู่สุคติแล้ว เพราะเธอระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยก่อนสิ้นสติและเสียชีวิตไป
==================
เพลงที่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ร้อง ที่ผมประทับใจที่สุด
เพลงแรกคือ "สยามเมืองยิ้ม" ซึ่งสอนให้คนไทยรู้รักสามัคคี
สยามเมืองยิ้ม โดยพุ่มพวง ดวงจันทร์
ลองพิจารณาดูเนื้อเพลงสิครับ ว่า ประเทศไทย คนไทยเรานี้โชคดีเพียงใดที่มีพระมหากษัตริย์
เวอร์ชั่นนี้พุ่มพวงร้องได้ไพเราะสุด ๆ จริง ๆ
เนื้อเพลงสยามเมืองยิ้ม
จงภูมิใจเถิดที่เกิดเป็นไทย
มิเป็นทาสใคร แหละมีน้ำใจล้นปริ่ม
ทั่วโลกกล่าวขาน ขนานนาม ให้ว่าสยามเมืองยิ้ม
เราควรกระหยิ่มถึงความดีงาม
คนเย็นใจซื่อได้ชื่อว่าไทย
ร้อนมาจากไหน ชาติไทยไม่เคยหวงห้าม
ข้ามเขตข้ามโขงถิ่นน้ำขุ่น มาพึ่งใบบุญเมืองสยาม
เรายิ้มรับตามที่ท่านต้องการ
เลื่องชื่อลือนาม สยามมีแต่น้ำใจ
ขอเตือนท่านผู้อาศัย อย่าทำอะไรให้ไทยร้าวราน
คนไทยใจซื่อ เขาถือแต่โบราณกาล
แค่เพียงข้าวสุกหนึ่งจาน ใครลืมของท่านนั้น เนรคุณ!!
คนไทยรักชาติแหละศาสนา
เทิดองค์เจ้าฟ้า ผู้ทรงเปี่ยมเนื้อนาบุญ
ถ้าท่านเคารพสิทธิ์ของไทย ท่านอยู่ต่อได้อีกนานทุน
สยามใจบุญ ยังยิ้มเสมอ
v
v
ตรงท่อนสุดท้าย "คนไทยรักชาติแหละศาสนา เทิดองค์เจ้าฟ้า ผู้ทรงเปี่ยมเนื้อนาบุญ ถ้าท่านเคารพสิทธิ์ของไทย ท่านอยู่ต่อได้อีกนานทุน.."
ประโยคนี้แปลความหมายได้ว่า ถ้าคนไทยรัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำดีถวายเป็นพระราชกุศล ย่อมได้กุศลมาก และได้มีแผ่นดินนี้อยู่จนตราบสิ้นชีวิต (แต่ถ้าใครไม่ทำเช่นนี้ ก็เท่ากับเนรคุณแผ่นดิน ก็อาจต้องจรจัดเร่ร่อน ต้องซื้อที่ซุกหัวนอนไปตลอดชีวิต)
------------------------
บทเพลงพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเทพฯ เพลง "ส้มตำ "
ผมได้ฟังเพลงพระราชนิพนธ์ ส้มตำ ครั้งแรกจากการร้องของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งผมยอมรับเลยว่า ผมไม่เคยเห็นใครร้องเพลงนี้ได้ไพเราะจับใจเท่ากับพุ่มพวงร้องเลย
หลังจากพุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้เสียชีวิตไป ยิ่งนานวันเข้า นานวันเข้า ผมก็ยิ่งรู้สึกว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์ เธอเป็นนักร้องลูกทุ่งที่เสียงดีที่สุด และยิ่งใหญที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมี
ผมดีใจที่ผมเกิดทันได้เห็นช่วงที่พุ่มพวง ดวงจันทร์เธอโด่งดังรุ่งเรืองสุด ๆ
จริง ๆ แล้วผมอยากจะบอกว่า แม้ผมจะเริ่มชอบเพลงพุ่มพวงจากแนวเพลงสนุกแนวเพลงเร็ว แต่ความจริงในวันนี้ ผมกลับคิดว่าเพลงที่ดีที่สุดและมีคุณค่ามากที่สุดของพุ่มพวง ก็คือเพลงช้า ที่เธอร้องได้ไพเราะจับใจทุกเพลง ลองไปหาชมและฟังกันเถิดในยูทูป
หมายถึง ถ้าใครคิดจะเป็นนักร้องลูกทุ่งชั้นเยี่ยมต่อไป แนะนำให้หัดร้องโดยดูวิธีการร้องแนวเพลงช้าของพุ่มพวง ไว้เป็นแบบอย่าง เพราะถือว่าทุกเพลงของพุ่มพวงคือ เพลงครู ได้เลย
เพลงพระราชนิพนธ์ "ส้มตำ" พุ่มพวง ร้องต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เพลงโลกของผึ้ง เพลงที่บอกเล่าชีวิตของพุ่มพวง จากเด็กบ้านนอกที่มาโด่งดังสุด ๆ เป็นเพลงที่เธอร้องด้วยหัวใจและน้ำตา
หลายคนอาจเกิดไม่ทัน เลยไม่รู้ว่า เพลงโลกของผึ้ง นั้นได้นำทำนองมาจากเพลงดังหนังจีนเรื่อง คมเฉือนคม ซีรีย์จีนที่โด่งดังมากในไทยเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ขับร้องโดย หวังหมิงฉวน ราชินีจอแก้วแห่ง TVB นางเอกของซีรีย์เรื่องนี้