เราต้องยอมรับว่า สังคมไทย คนไทยจำนวนมากเป็นพวกชอบหลงใหลคนรวย
ขนาดคนไม่รวย แต่พอจะจัดงานบุญงานกุศล ขึ้นบ้านใหม่ บวชลูกชาย หรืออะไรต่าง ๆ ก็มักเต็มไปด้วยความอวดร่ำอวดรวย
ก็ในเมื่อรวยแล้วมีคนเกรงใจ รวยแล้วมีคนให้ความนับถือ ใคร ๆ ก็เลยอยากรวย หวังรวยจะได้มีหน้ามีตา
แต่เผอิญโอกาสจะรวยด้วยสติปัญญาและจากความพากเพียรมันยากและช้าเกินไป
สุดท้ายคนไทยก็ลงท้ายที่หาทางรวยลัด ทั้งเล่นหวย เล่นอบายมุข คดโกง จนกระทั่งค้าสินค้าผิดกฎหมาย
คือถ้ารวยแล้ว รวยซะอย่าง มันก็คุ้มที่จะเสี่ยงทำผิด ทำชั่ว เพราะถ้ารวยแล้วเกิดเจอคนจับได้ หากมีเงินก็เอาเงินปิดปากไอ้พวกปากมากมันซะ
หรือถ้าโดนเจ้าหน้าที่รัฐจับได้ ก็ใช้เงินซื้อเจ้าหน้าที่ จ่ายใต้โต๊ะ ติดสินบนกันไป
แล้วถ้าติดสินบน ใช้เงินปิดปาก ยังไม่ได้ผล สุดท้ายก็จ้างมือปืนรับจ้าง มายิงฝ่ายตรงข้ามที่มันขัดขวางผลประโยชน์เรามันซะเลย จะได้จบ ๆ
ด้วยเหตุนี้นี่แหละอาชีพมือปืนรับจ้างในไทยถึงได้เฟื่องฟูตลอดมา
ตราบใดถ้ากระบวนการยุติธรรมของไทย ยังไม่ประหารพวกมือปืนรับจ้างหรือขังตลอดชีวิตจริง ๆ กลับยังปล่อยให้พวกนี้ได้รับพระราชทานอภัยโทษหลายครั้งหลายหน จนติดคุกไม่กี่ปี ก็ออกจากคุกมาแล้ว
ตราบนั้นคนชั่วก็จะมีอำนาจในบ้านเมืองต่อไป ส่วนคนดีก็ไม่กล้าขัดขวางคนชั่ว เพราะใคร ๆ ก็กลัวตาย
-------------------
ทักษิณ ร่ำรวยจากสัมปทานรัฐ ทำกำไรขูดรีดคนไทยจากธุรกิจสัญญาณโทรศัพท์มือถือจนร่ำรวยรวดเร็ว หลังจากนั้นก็มาเล่นการเมือง
"พี่จำลอง ผมรวยแล้ว ผมพอแล้ว ผมอยากรับใชับ้านเมือง"
หลังจากทักษิณตั้งพรรคของตัวเอง ก็เอาเงินไปเหมาซื้อ สส. ยกพรรค จากพรรคใหญ่ที่กำลังจะแพแตกของบิ๊กจิ๋ว
จนได้อำนาจรัฐมาอยู่ในมือแล้ว ก็ออกนโยบายดี ๆ ให้คนหลงรักมาสัก 1 อย่าง แต่ออกนโยบายเอื้อผลประโยชน์ทับซ้อนให้ตัวเองและพวกพ้องสัก 10 อย่าง จนได้ใจประชาชนที่รู้ไม่ทันทักษิณจำนวนมาก
เมื่อได้รับการเลือกตั้งในสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนท่วมท้นจนตั้งรัฐบาลพรรคเดียวก็ยังได้ ทักษิณก็เริ่มหลงระเริงในอำนาจที่ได้มา เริ่มซื้อองค์กรอิสระ เริ่มซื้อ สว. เรื่อยไปจนถึงกระทั่งกล้าซื้อซื้ออัยการสูงสุด หรือแม้กระทั่งซื้อศาล (แต่ก็พลาดจนได้จากคดีถุงขนม 2 ล้าน)
แต่ก็นั่นแหละ คนไทยไม่ได้เห็นแก่เงินและประชานิยมทุกคน สุดท้ายทักษิณก็ถูกประชาชนที่รู้ทันทุนสามานย์ลุกฮือออกมาขับไล่
ผมคงไม่เท้าความมาก ขอเข้าเรื่องเลยว่า
ทักษิณ เสี่ยตัน ภาสกรนที ธัมมชโย เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ทักษิณ ปราศัยทำนองว่า เลือกพรรคของเขา ประชาชนจะร่ำรวยขึ้น คนจนจะหมดไปใน 6 ปี เพราะประชาธิปไตยกินได้
คนจนที่อยากรวย เพราะคิดแต่หวังพึ่งนักการเมืองมากกว่าคิดพึ่งสติปัญญาตนเอง และอยากได้ประชานิยม ก็เลยเลือกพรรคของทักษิณ
อย่างเช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่คนไทยจำนวนมากยกย่องทักษิณเหลือเกิน
ใช่ครับ นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดีแต่การบริหารจัดการยังมีข้อเสียอยู่มาก
สิ่งที่ประชาชนได้จากโครงการ 30 บาทนี้ ยังนับว่าน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับผลประโยชน์แอบแฝงที่ทักษิณได้จากนโยบายเอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง
เปรียบเสมือน ประชาชนได้ผลประโยชน์ปีละไม่กี่ร้อยบาทต่อคนโดยเฉลี่ยจากงบประมาณ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ทักษิณได้นับพันนับหมื่นล้านจากนโยบายผลประโยชน์ทับซ้อน หรือนโยบายเอื้อประโยชน์พวกพ้อง
ทั้ง ๆ ที่ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นเงินภาษีของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เงินของทักษิณเลยแม้แต่บาทเดียว
ที่สำคัญนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่บริการดีขึ้นได้จนปัจจุบัน ประชาชนได้สิทธิรักษาที่ดีขึ้น ก็มาในสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ และรัฐบาลอภิสิทธิ์นี่แหละครับ ที่พัฒนาจัดการให้ดีขึ้น คนในวงการสาธารณสุขต่างรู้กันดี (แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องอยู่อีกมากที่รอการปฏิรูป)
คลิกอ่าน การโกงระดับพื้นฐานของทักษิณ
-----------------------
ส่วนตัน ภาสกรนที ขายหวยผ่านฝาชาเชียว มอมเมาผู้คนด้วยของรางวัล จนกลายเป็นว่า ผู้คนที่ซื้อชาเขียว ไม่ได้หวังกินชาเท่ากับต้องการของรางวัล
ไม่เชื่อลองไปถามสาวกคุณตันดูสิ เช่นถ้าถามว่า ถ้าให้เลือกว่า ต่อไปรัฐห้ามชาเขียวแจกโชค แล้วราคาชาเขียวต้องเหลือขายขวดละ 8 บาทเท่านั้น กับชาเขียวยังแจกโชคแจกของรางวัลได้ แต่ยังขายขวดละ 16 บาทเหมือนเดิม ผู้คนจะเลือกอย่างไหนมากกว่ากัน ?
ผมมั่นใจว่า สาวกคุณตันชอบให้ชาเขียวขายขวดละ 16 บาทแต่แจกรถเบนซ์ แจกไอโฟน มากกว่าชาเขียวขายขวดละ 8 บาทแต่ไม่แจกอะไรเลย เชื่อไหม ?
ส่วนธัมมชโย มอมเมาผู้คนด้วยบุญกุศล สอนผู้คนว่า ทำบุญสามารถซื้อวิมานสวยงามในสวรรค์ได้ ทำบุญแล้วต่อไปจะเกิดมาเป็นมหาเศรษฐีทุกภพทุกชาติ
ผู้คนก็เลยแห่ไปทำบุญกับธัมมชโยกันใหญ่ จนธัมมชโยรวยมีเงินหลายแสนล้านแล้วมั้ง รวยที่สุดกว่ามหาเศรษฐีคนใดในประเทศนี้ เพียงแต่ว่า มันเปิดเผยไม่ได้
ถ้าคนไทยทำบุญแล้วไม่ได้อะไรเลย เช่น ไม่ได้ทำให้รวยขึ้น ไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ไม่ได้มีวิมานอะไรทั้งนั้น ถามว่าผู้คนจะอยากมาทำบุญกับวัดธรรมกายหรือไม่ ?
ทั้งทักษิณ เสี่ยตัย และธัมมชโย ต่างใช้วิธีการมอมเมาคนโง่ไม่ต่างกันนัก เพราะทักษิณเมื่อได้อำนาจรัฐแล้ว ก็เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ผ่านนโยบายเอื้อประโยชน์พวกพ้องได้มากมาย
ส่วนเสี่ยตัน ก็ไม่ได้เอาเงินตัวเองมาแจกโชคให้ผู้คนจริง ๆ หรอก เพราะแท้ที่จริงของรางวัลที่นำมาแจกเหล่านั้น ก็คือกำไรเล็กน้อยที่ได้จากขายหวยฝาชาเขียวที่นำมาแจกโชค
แต่กำไรส่วนใหญ่เข้ากระเป๋าเจ้ามือคือคุณตันแทน แต่ลูกค้าหวยกลับซาบซึ้งบุญคุณของคุณตัน แทนที่จะขอบคุณคนเสียหวยชาเขียวจากทั่วประเทศ
แต่คุณตัน เขาเป็นนักธุรกิจพ่อค้า การที่เขาจะทำเพื่อผลกำไรมากมายก็ไม่แปลก
ส่วนธัมมชโย นี่เลวที่สุด แอบอ้างพระธรรมคำสอนมาบิดเบือนให้ผู้คนหลงใหลในบุญ เกิดความโลภในบุญ ประหนึ่งการทำบุญคือการลงทุนชนิดหนึ่ง ผ่านกองทุนธัมมชโย
เมื่อท่านลงทุนในกองทุนธัมมชโยแล้ว ก็จะมีวิมานสวยหรูบนสวรรค์ชั้นต่าง ๆ รอคอยท่านให้ไปอยู่
นี่แม่ง หลอกลวงขั้นสูงเลยนะนั่น เพราะคนที่ทำบุญไม่ได้มีโอกาสไปเห็นวิมานบนสวรรค์อะไรนั่นจริง ๆ หรอก ว่ามีจริงหรือไม่ จะต้องอาศัยความหลงงมงายและต้องมโนตามล้วน ๆ
ขนาดประชานิยมทักษิณประชาชนยังมองเห็นได้ใช้ประโยชน์ หรือจะโชคจากหวยชาเขียวของคุณตันก็ยังสัมผัสโชคได้จริง ๆ
แต่ธัมมชโยฉลาดกว่าเลวกว่า เพราะมันหลอกสาวกไปว่า ถ้าใครอยากเห็นวิมานบนอากาศที่สร้างสมไว้ ก็ต้องฝึกวิชชาธรรมกายนะจ๊ะ จะได้ถอดธรรมกายไปดูวิมานด้วยตนเองเลยนะจ๊ะ
แต่ถ้าไปดูด้วยตัวเองไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวอาตมาช่วยรับรองให้ได้ว่า มีทิพย์วิมานกันรึยัง สวยใหญ่โตแค่ไหน ขนาดวิมานใหญ่โตสวยงามตามกำลังเงินที่ทำบุญกับอาตมา
แน่นอน ผู้คนที่หลงใหลธรรมกายก็ย่อมเชื่อ เพราะหลงเชื่อว่ามันเป็นพระ ย่อมไม่โกหก
--------------
ทักษิณ เสี่ยตัน สมีธัมมชโย เหมือนกันและแตกต่างกันตรงไหน ?
คำตอบง่าย ๆ คือ ทั้งสามคนมีวิธีมอมเมาคนโลภคล้ายคลึงกัน จะต่างกันตรงที่
ทักษิณ ใช้ภาษีชาติมาซื้ออำนาจรัฐจากคนโลภ ด้วยประชานิยม ซึ่งคำว่า ประชานิยม นั้นต่างจากคำว่า "รัฐสวัสดิการ"
เสี่ยตัน มอมเมาคนโลภด้วยเงินของพวกบ้าหวยออกเบอร์รหัส จากการขายหวยใต้ฝาชาเขียวแล้วแบ่งกำไรเพียงน้อยนิด มาซื้อของรางวัลแจก เหมือนการขายหวยออกเบอร์
สมีธัมมชโย มอมเมาคนโลภด้วยบุญ หลอกคนมาทำบุญซื้อสววรค์ ซื้อวิมานสวยหรูในอากาศ และซื้ออนาคตเศรษฐีในภพหน้า
สุดท้ายทั้งสามคนร่ำรวยมหาศาล จากเงินของพวกโง่และโลภเอง แถมพวกโง่และโลภยังกลายเป็นสาวกที่หลงใหลได้ปลื้ม ศรัทธา ทั้งสามคนอีกด้วย
ทักษิณ ซุกหุ้นเพื่อเลี่ยงกฎหมายไว้กับคนรับใช้ เลขา คนขับรถ แล้วบอกว่า ผมบกพร่องโดยสุจริต
เสี่ยตัน ภาสกรนที ขายโออิชิให้เบียร์ช้าง สัญญาว่าจะไม่ทำกิจการชาเขียวเพื่อมาแข่งกับเจ้าสัวเจริญแน่นอน จะไปทำอย่างอื่น แต่สุดท้าย ต้องโกหก ถุยน้ำลายรดฟ้า
สมีธัมมชโย ยึดครองที่ดินวัดร่วม 10 ปี พอโดนคนฟ้องร้อง ก็เลยต้องนำมาคืนวัด เพราะเกรงความผิดอาญาถึงติดคุก อ้างว่า ไม่ปาราชิกเพราะคืนทรัพย์ให้วัดแล้ว
ขึ้นชื่อว่า คนสันดานโกหก ไม่ทำชั่วย่อมไม่มี
คลิกอ่าน ทักษิณ และ ปตท. สันดานเดียวกัน
คลิกอ่าน เมื่อผมเลิกนับถือวัดธรรมกาย
------------
หมายเหตุ กรณีทักษิณ กับธัมมชโย ผู้คนมองเห็นความชั่วได้ง่าย 2 คนนี้เลวชัดเจน
แต่กรณีเสี่ยตัน คุณตันไม่ใช่คนเลว เพียงแต่มีคนจำนวนน้อยที่มองไม่เห็นภัยที่แอบแฝงในกลยุทธ์น้ำหวานอาบยาพิษแบบนี้
ฉะนั้นคุณต้องอ่านบทความของผมอีกหลาย ๆ บทความก็อาจจะเข้าใจ ไปหาเอาเถอะมีไม่ต่ำกว่า 5 บทความที่ผมเขียนเกี่ยวกับกลยุทธ์ของคุณตัน
เหตุเพราะคนไทยจำนวนมาก แยกแยะกลยุทธ์การตลาดกับการมอมเมาด้วยอบายมุขไม่ออก
ตามไปที่ลิงค์บทความด้านล่างคือบทความล่าสุดที่ผมเขียน จะมีลิงค์อีกหลายบทความแนบอยู่ท้ายบทความ
คลิกอ่าน ใครแจกเบนซ์กันแน่ ระหว่างคุณตัน กับคอหวยใต้ฝา
-->