ตัวการใหญ่ปัญหาความรุนแรงภาคใต้ ตอน 2 แผนชั่วของมาเลเซียใน 3 จังหวัดใต้ไทย
เกริ่น
จากบทความที่แล้ว ผมได้เขียนถึงมูลเหตุจูงใจให้ มาเลเซียหันกลับมาเริ่มแผนก่อการร้ายในประเทศไทยอย่างรุนแรงครั้งใหญ่ใน 3 จังหวัดใต้อีกครั้งภายหลังปี 2547 เป็นต้นมา
แน่นอนในการก่อการร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ย่อมมีพวกขบวนการค้ายาเสพติด ขบวนการขนของหนีภาษี ขบวนการค้าของเถื่อน ขบวนค้าผู้หญิงส่งไปมาเลเซียและตะวันออกกลาง ขบวนการเรียกค่าคุ้มครอง ได้ร่วมสวมรอยในการก่อความรุนแรงใน 3 จังหวัดใต้ด้วย
เพราะการก่อความรุนแรงทุกครั้งจะสามารถเบี่ยงเบนความสนใจเจ้าหน้าที่รัฐได้เสมอ
-------------------------------
มาเลเซีย ปากปราศัย น้ำใจเชือดคอ
นโยบายตี 2 หน้าของมาเลเซีย นั่นคือ
ต่อหน้า มาเลเซียจะแสดงบทเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับประเทศไทย แต่อีกด้านคือ ให้การสนับสนุนพวกผู้ก่อการร้ายใน 3 จังหวัดใต้ ทั้งสนับสนุนที่พักอาศัยหลบซ่อน แก่กลุ่มผู้ก่อการร้ายในไทยทุกกลุ่ม
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมรัฐบาลไทยที่ผ่านๆ มาหลายรัฐบาลต้องไปเจรจาขอความร่วมมือแก้ปัญหากับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
และเพราะมาเลเซียรู้ดีว่า รัฐธรรมนูญของไทยไม่อาจแบ่งแยกดินแดนได้ และคนไทยไม่เคยรังเกียจผู้ที่นับถือต่างศาสนา คนไทยไม่รังเกียจคนไทยมีเชื้อชาติแตกต่างกัน ไม่ว่า จะชาวไทยซิกส์ ไทยมลายู ไทยเชื้อสายจีน หรืออื่นๆ ต่างร่วมอยู่บนแผ่นดินไทยได้อย่างมีความสุข
ชาวไทยมุสลิมใน3 จังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่ก็รักที่จะเป็นคนไทย ถึงแม้ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา จะมีการยุยงว่า อยู่เป็นคนของประเทศไทยจะไม่เจริญเท่าไปเป็นคนมาเลเซีย ประเทศมาเลเซียเจริญกว่า เป็นคนมาเลเซียจะร่ำรวยกว่า สุขสบายกว่าก็ตาม
และพวกยุยงพยายามจะชี้ให้เห็นเสมอว่า เป็นคนไทยมุสลิมใน 3 จังหวัดใต้ ไม่มีความเท่าเทียมกับเป็นชาวไทยพุทธ
แต่ในความเป็นจริง จังหวัดที่มีชาวไทยมุสลิมมากกว่า90% อย่างเช่น ในจังหวัดสตูล กลับไม่ได้เชื่อตามเช่นนั้น จึงทำให้จังหวัดสตูลจึงมีความสงบสุขเพราะพวกเขายอมรับความเป็นคนไทย
และความจริง ชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยที่อยู่ในมาเลเซีย กลับได้รับความไม่เท่าเทียมในการดำเนินชีวิตเหมือนคนมาเลเซียแท้ๆ ซึ่งในประเด็นนี้ ข่าว9 อสมท. เพิ่งจะนำเสนอสกู๊ปข่าวนี้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง
คลิกดูข่าว สิทธิภูมิบุตรคนมาเลเซียเชื้อสายไทย
--------------------
ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี แม้มีปัญหาก่อการร้ายเกิดขึ้นใน3 จังหวัดใต้มาโดยตลอด แต่คนไทยทุกเชื้อสายในพื้นที่ก็ยังอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เพราะทุกคนรู้ดีว่า พวกแบ่งแยกดินแดนเป็นแค่พวกส่วนน้อยที่หลงผิดเท่านั้น
อย่างก๋งของผม เมื่อประมาณ 60-70 ปีก่อน ก๋งก็เคยไปทำงานที่ยะลาอยู่หลายปี ก๋งผมพูดให้ฟังเสมอว่า ยะลาคือจังหวัดที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย ถ้าเลือกได้ก๋งผมอยากอยู่ที่ยะลาตลอดชีวิต
ฉะนั้นเมื่อมาเลเซียต่อหน้าจึงแสดงความเป็นมิตรกับไทย แต่อีกหน้าก็ยังอยากได้ดินแดนในส่วนที่เคยเป็นรัฐปัตตานีให้ไปเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซียเช่นกัน (อังกฤษตัดแบ่งดินแดนรัฐปัตตานีส่วนหนึ่งให้มาเลเซีย อีกส่วนยังอยู่กับไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 )
เพราะทรัพยากรทั้งบนแผ่นดินและทางทะเลของ 3 จังหวัดใต้นั้นอุดมสมบูรณ์มาก และหาก 3 จังหวัดใต้ไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซียเมื่อไหร่ การลากเส้นทรัพยากรทางทะเลก็ต้องเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยเช่นกัน
(ดูรูปประกอบแหล่งน้ำมัน ปัตตานี มาเลเซีย ด้านล่างบทความ)
-------------------
เมื่อการใช้ขบวนการก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ ปฏิบัติการณ์ก่อการร้ายในไทย อย่างโจ่งแจ้งและอาจเป็นผลเสียต่อมาเลเซียเอง
มาเลเซียจึงต้องใช้ขบวนการก่อการร้ายที่เปิดเผยตัวตนไม่ได้อีกแล้ว เพราะมันชัดเจนเกินไป และหน่วยข่าวกรองไทยก็รู้ว่า พวกขบวนการก่อการร้ายหลายกลุ่มนั้น ก็ล้วนแต่มีมาเลเซียแอบหนุนหลังให้ทั้งสิ้น
ดังนั้น วิธีที่จะทำให้ 3 จังหวัดใต้แยกตัวจากไทยออกมาได้ ต้องทำด้วยวิธีดังต่อไปนี้
เริ่มจาก 4 ขั้นตอนแรก
1. การก่อการร้ายแบบไม่แสดงตัวตน
ทุกครั้งที่ก่อการร้าย จะต้องไม่มีการประกาศความรับผิดชอบ เพื่อที่จะไม่มีใครรู้ว่า กลุ่มไหนเป็นผู้กระทำ ซึ่งเมื่อไม่รู้ว่ากลุ่มไหนเป็นผู้ก่อการร้ายกันแน่ การโยงไปถึงต้นตอผู้สนับสนุนอย่างมาเลเซียก็จะยากขึ้น หรือจะโทษมาเลเซียก็คงไม่มีหลักฐานชัดเจน
2. เมื่อโจรไม่มีตัวตนแน่นอน ก็ก่อการร้ายได้ไม่เลือก
เราจึงได้เห็นการฆ่าแบบไม่เลือกของผู้ก่อการร้าย ที่ฆ่าได้แม้กระทั่งผู้หญิงและเด็ก ฆ่าชาวมุสลิมด้วยกันที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ฆ่าโดยไม่เลือกอาชีพ เช่นฆ่าได้แม้กระทั่งพระ หมอ และครู
พวกนี้มักอ้างว่า พระ และครูไทย จะมาปลูกฝังความเชื่อผิดๆ ให้คนในพื้นที่
3. สร้างความหวาดกลัวด้วยวิธีการป่าเถื่อนโหดร้าย
เมื่อโจรไม่มีตัวตน ไม่มีขบวนการแบ่งแยกดินแดนออกมาประกาศความรับผิดชอบในการกระทำในแต่ละครั้ง จึงสามารถกระทำการที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อนได้มากขึ้นๆ เพื่อหวังสร้างความหวาดกลัวให้คนในพื้นที่
ถ้าเป็นคนไทยพุทธ หรือคนไทยเชื้อสายจีน ที่ปักหลักในพื้นที่มานาน ก็อาจทิ้งแผ่นดินออกจากพื้นที่ไปเพราะความหวาดกลัว ซึ่งในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา ได้มีคนไทยทิ้งแผ่นดินใน 3 จังหวัดใต้นี้เป็นจำนวนมากแล้ว
4. ฆ่าชาวมุสลิม ที่เอียงเข้าข้างฝ่ายรัฐไทย
การฆ่าของขบวนการแบ่งแยกดินแดนสมัยก่อน มักเลือกที่จะไม่ฆ่ามุสลิมด้วยกัน เพื่อหวังดึงมวลชนมาเป็นพวก แต่ตอนนี้พวกโจรรู้ว่า มุสลิมในพื้นที่ส่วนใหญ่รักความสงบ และไม่เข้าข้างพวกโจร
พวกโจรเลยฆ่าชาวมุสลิมด้วยกัน โดยเฉพาะมุสลิมที่ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐไทย แถมบางครั้งพวกโจรยังใส่เสื้อเลียนแบบชุดทหาร เพื่อหวังใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐว่าฆ่าชาวมุสลิมอีกด้วย
เดี๋ยวนี้พวกโจรใต้ต้องใช้วิธีรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้คนในพื้นที่เกิดความหวาดกลัวมาก ๆ เพื่อหวังว่า สุดท้ายแม้ชาวมุสลิมที่ไม่เคยคิดอยากจะแบ่งแยกดินแดน ก็จะเริ่มทนไม่ไหวกับสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะต้องยอมแพ้แก่พวกโจรในที่สุด
เพราะสิ่งที่พวกผู้ก่อการร้ายหวังผลก็คือ
ให้คนในพื้นที่เริ่มยอมรับว่า "จะเป็นคนบนแผ่นดินของชาติไหนก็ได้ ขอให้ความรุนแรงยุติลงโดยเร็วก็พอ"
นี่คือแผน 4 ขั้นแรก ที่พวกโจรใต้มุ่งหมาย ถ้าได้ตามนี้แล้ว แผนขั้นต่อไปที่พวกโจรต้องการก็คือ ... ?
------------
นครรัฐปัตตานี
มาเลเซียจะแอบเจรจาลับๆ กับเจ้าของพรรคการเมืองชั่วๆ ที่ได้มาเป็นรัฐบาลไทย แล้วหวังผลประโยชน์ทับซ้อนลับ ๆ กับมาเลเซีย (ผลประโยชน์ทั้งทางบกและทางทะเล)
โดยรัฐบาลไทยชั่วๆ นั้นจะเสนอหน้าไปขอเจรจากับขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่มีตัวตน!! โดยจะมีมาเลเซียเป็นตัวกลางในการเจรจา และจะเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเปิดโอกาสให้ 3 จังหวัด ยกระดับเป็นเขตปกครองพิเศษปัตตานี แล้วขอให้มี
1. ให้รัฐปัตตานีมีการเลือกผู้บริหารกันเองเช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร
2. ขอมีการเก็บภาษีรายได้ในท้องที่ของตัวเอง และขอแบ่งผลประโยชน์ต่างๆ ในพื้นที่คนละครึ่งกับรัฐบาลไทย
นี่คือหลักการขั้นต้นที่ กลุ่มก่อการร้ายจะเสนอ
และหากได้เป็นเขตปกครองพิเศษนครรัฐปัตตานีได้แล้วเมื่อไหร่ จงเชื่อเถอะว่า ความรุนแรงในพื้นที่จะยังคงมีอยู่ แต่อาจน้อยลงบ้าง แต่ระดับความรุนแรงจะไม่น้อยลง
เพราะสิ่งที่มาเลเซียหวังลึกๆ ที่สุด ก็คือ ต้องการให้รัฐบาลไทยยอมให้นครรัฐปัตตานีสามารถทำประชามติว่า คนในเขตปกครองพิเศษปัตตานีต้องการจะแยกตัวออกมาจากประเทศไทยหรือไม่ ?
โดยผู้บริหารรัฐปัตตานีจะยื่นเรื่องขอให้องค์การสหประชาชาติเข้าแทรกแซงร่วมกดดันรัฐบาลไทยด้วย
ซึ่งหากเขตปกครองนครรัฐปัตตานีแยกตัวออกจากประเทศไทยได้สำเร็จเมื่อไหร่ ?
และหลังจากนั้น อีกนาน ผู้นำรัฐปัตตานีจะมีการขอให้ปัตตานีกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซียแน่นอนครับ
-------------------
ข้อสังเกต
ที่ผ่านมาในการก่อความรุนแรงแต่ละครั้ง จะไม่มีขบวนการก่อการร้ายใดๆ แสดงความรับผิดชอบ เพราะถ้าแสดงตัวออกมา ก็คือจะถูกประณาม!!
และรัฐบาลไทยก็ไม่รู้ชัดเจนว่า กลุ่มไหนก่อการร้ายในเหตุการณ์ใดๆ บ้างชัดเจน
ตามหลักแล้ว ไทยเราก็ไม่ควรจะขอเจรจากับขบวนการแบ่งแยกดินแดนใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะรู้ว่า เหตุการณ์ไหน มีกลุ่มไหนเป็นผู้ก่อการ
ในเมื่อไม่เคยมีการประกาศความรับผิดชอบจากขบวนการก่อการร้ายกลุ่มใด ๆ เลย
แล้วเหตุไฉน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ถึงคิดไปเจรจากับขบวนการก่อการร้ายเหล่านั้น ?
น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีไทย และนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวที่กัวลาลัมเปอร์ เรื่องการลงนามเพื่อเปิดการเจรจากันระหว่าง “บีอาร์เอ็น” กับทางการไทย โดยที่มีรัฐบาลมาเลเซียเป็นคนกลาง
ในเมื่อไม่มีกลุ่มไหนกล้าแสดงตัวรับผิดชอบ นั่นย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะไปเจรจากับพวกที่ไร้ความรับผิดชอบ และไร้ความกล้าหาญเหล่านั้น
ฉะนั้น ถ้าจะเจรจาก็ต้องถามพวกมันก่อนว่า พวกมึงฆ่าผู้หญิง พระ ครู และเด็ก ทำไม ??
แล้วเหตุการณ์ไหนที่พวกมึงคือผู้กระทำ ??
ถ้าไม่มีกลุ่มไหนออกมาตอบในคำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อน ก็ไม่มีประโยชน์ในการเจรจา เพราะพวกนี้ก็เป็นแค่พวกแอบอ้างมาสวมรอย เพื่อใช้ในการจัดฉากเจรจาเท่านั้น
หรือแม้แต่รัฐบาลไทยจะได้เจรจากับกลุ่มใดๆ แล้วก็ตาม รัฐบาลไทยก็ต้องไม่ยอมรับข้อเสนอจากกลุ่มใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะสามารถยุติความรุนแรงในพื้นที่ให้สงบอย่างน้อย 1 ปี เสียก่อน จึงจะมาเจรจากันใหม่ได้
เว้นแต่พวกคิดคดต่อชาติเท่านั้นแหละ ที่ไปยกระดับพวกขบวนการก่อการร้ายให้มันสำคัญขึ้นมาบนเวทีระดับนานาชาติ เพื่อหวังยกดินแดนให้พวกมันปกครอง
-----------------
ถาม เขตปกครองพิเศษปัตตานีจะมีได้ไหม ?
ตอบว่า สามารถมีได้แน่นอน แต่...
โดยหลักการแล้ว รัฐไทยไม่ควรยอมให้มีการแยกตัวออกมาเป็นเขตปกครองพิเศษปัตตานีเด็ดขาด จนกว่าปัญหาการก่อการร้ายและความรุนแรงในพื้นที่จะต้องสงบลงไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้วเท่านั้น
หากรัฐบาลไทยยุคไหน ไปยินยอมให้มีการแยกตัวเป็นรัฐปัตตานีก่อนที่เหตุการก่อการร้ายจะสงบเป็นเวลาอย่างน้อย 20ปี เมื่อไหร่ล่ะก็
ผมฟันธงได้เลยว่า รัฐบาลนั้นๆ ตั้งใจสวมรอยขายชาติ ยกแผ่นดินไทยให้มาเลเซียแน่นอน !!
(หมายเหตุ กลุ่มก่อการร้ายใหม่ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับมาเลเซียเลย แต่หวังแบ่งแยกดินแดน หวังออกจากการเป็นคนไทยจริง ๆ ก็ยังมีอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด หรือแม้แต่พวกค้ายาเสพติด ที่หลอกใช้วัยรุ่นในพื้นที่ ด้วยอ้างหลักศาสนาผิด ๆ ก็มี)
---------
3 ขั้นตอนทำลายล้างประเทศไทย เพื่อการแก้แค้นสาสม !
"เมื่อผมอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็อย่าได้เป็นสุข"
1. ยกแผ่นดินซีกขวาของไทยให้เขมร (ซึกขวาเมื่อมองจากแผนที่โลกลงไป)
2. ยกแผ่นดินปลายด้ามขวานของไทยให้มาเลเซีย เพื่อแลกผลประโยชน์ทางทะเล
3. ให้คนไทยเป็นหนี้หัวโตไปทั้งชาติ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!
http://imgur.com/8fZ8iqg
น้ำมันในน่านน้ำปาตานี-กลันตัน-ตรังกานู ซึ่งมาเลเซียเขาเรียกแหล่งน้ำมันตรงนี้ว่า แหล่งทาปิสซึ่งอยู่นอกชายฝั่งรัฐตรังกานูไป 200 กิโลเมตรเป็นน้ำมันที่คุณภาพดีที่สุดในโลก เนื่องจากมีมลภาวะต่ำ จึงแพงที่สุดในโลกด้วย แพงกว่าน้ำมันที่เรียกว่าเบรนท์ ทะเลเหนือที่อังกฤษถึง 7 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งข้อมูลตรงนี้ตรวจสอบได้จากหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น บลูมเบิร์ก สถาบันปิโตรเลียมออสเตรเลีย (Australia Institute of Petroleum) ซึ่งมันก็ตรงข้ามกับที่กระทรวงพลังงานพูดทั้งหมด และเป็นเรื่องที่น่ากังขา"
บ่อนี้อยู่กึ่งระหว่างชายแดนปาตานี-มาเลเซีย ซึ่งมาเลย์มาขอเจรจาว่าเป็นพื้นที่ทัพซ้อนสมัยพล.อ.เกรียงศักดิ์ ขณะที่คนไทยที่ไปเจรจา(พล.ร.อ.....)ยอมรับว่าไม่ทราบว่ามีอะไรใต้ทะเล!!! ท่านดูแผนที่กันเองละกัน
(ขอบคุณรูปและข้อมูลจากแอ่งปิโตรเลียมจาก Patani forum)
คลิกอ่านตอน 3 ทำไมปัญหาภาคใต้ ยิ่งเจรจายิ่งรุนแรง
เคยไม่เข้าใจมาตลอดว่าทำไมหัวหน้าขบวนการก่อการร้ายจึงได้รับการรักษาอย่างดีในโรงพยาบาลมาเลเซีย ทำไมบิ๊กจ..หวานเจี๊ยบถึงพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องตลอดว่าให้สามจังหวัดเขาได้มีโอกาสดูแลตัวเองเถอะ ตอนนี้เข้าใจแล้วครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่คนไทยไม่รักชาตินี่แหละ ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะตาย
ตอบลบ