วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ลดภาษีรถยนต์คันแรก เฉพาะคนจ่ายภาษีเท่านั้น




บทความนี้ต่อเนื่องจากบทความ นโยบายยิ่งลักษณ์ก็ดีแต่พูด

ซึ่งนโยบายอีกเรื่องที่เป็นนโยบายประชานิยม ที่หวังซื้อใจคนไทยที่กำลังจะมีแผนจะซื้อรถคันแรก ให้ตัดสินกาเบอร์1เลือกเพื่อไทย ก็เพื่อหวังว่าจะได้ส่วนลดภาษีจากการซื้อรถยนต์คันแรก

หรือแม้แต่คนที่มีรถอยู่แล้ว และกำลังจะซื้อรถคันต่อไป ก็อาจใช้ชื่อคนในครอบครัวซื้อก็ได้ ก็เพื่อหวังได้ส่วนลดภาษีจากรัฐบาลเหมือนกัน

ข่าวล่าสุด ได้ออกมาแล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะคืนภาษีรถคันแรกให้แก่ประชาชนที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น (ระบบภาษีคือคิดภาษีรายได้ประจำปี ไม่ใช่ภาษีมูลค่าเพิ่มนะจ๊ะ)

ไปดูคลิปข่าวนี้ครับ ซึ่งในข่าวนี้อธิบายรายละเอียดชัดเจนมากๆ ผมเองดูคลิปข่าวแล้ว เหมือนอยากจะขำนะครับ แต่มันก็ขำไม่ออก คุณผู้อ่านดูเอาเองแล้วกัน

ประชาชนรากหญ้าส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบภาษีที่กำลังคิดจะซื้อรถคันแรก และกำลังรอความชัดเจนจากนโยบายนี้ของรัฐบาล ถ้าพวกเขาดูข่าวนี้แล้ว เขาจะรู้สึกอย่างไรกันนะ?


สาเหตุหนึ่งที่ผู้ประกอบการกดค่าแรงคนงานให้ต่ำ ก็เพราะค่าขนส่งของไทยต่อต้นทุนการผลิตแล้ว ค่าขนส่งนับว่าแพงครับ เพราะการจราจรในไทยติดมาก และการขนส่งระบบรางในไทยยังไม่พัฒนา ทำให้ต้นทุนสินค้าไปสูงที่ค่าขนส่งเยอะกว่าในประเทศอื่นๆ เมื่อค่าขนส่งสูง ผู้ประกอบการไม่รู้จะลดค่าขนส่งลงได้อย่างไร จึงต้องไปลดที่ค่าแรงแทน เพื่อให้ราคาสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ประโยคเด็ดท่านรัฐมนตรีช่วย "ไม่ได้หลอก แค่ทำไม่ตรงกับที่เคยหาเสียงเท่านั้นเอง" (555) ----------------------- ผมผิดหวังกับความคิดของนโยบายทุกรัฐบาล เพราะรัฐบาลส่วนใหญ่มักมองใกล้ ไม่มองไกล นโยบายลดภาษีรถคันแรกนั้น ถ้าสมมุติไม่ลดภาษี แล้วเอาเงินภาษีส่วนนั้นมาพัฒนาระบบรถโดยสารสาธารณะไม่ดีกว่าเหรอ?? นโยบายลดราคาน้ำมัน โดยลดการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ แทนที่จะลด สู้เอาเงินส่วนตรงมาพัฒนาคุณภาพรถรถสาธาณะทั่วประเทศ ไม่ดีกว่าเหรอ? คุณผู้อ่านครับ นโยบายประชานิยมต่างๆของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นนโยบายที่ต้องใช้เงินมากขึ้นทั้งนั้น เมื่อนโยบายต้องใช้เงินมากขึ้น แต่กลับตัดรายได้เข้ารัฐให้น้อยลง แล้วกำลังคิดจะไปกู้เงินมาโปะกองทุนน้ำมัน หรือไม่ก็ไปเพิ่มภาษีสินค้าบาปแทนนั้น(เพิ่มภาษีบาปอันนี้เห็นด้วย) เดือนๆนึงรัฐขาดเงินจากภาษีสรรพาสามิต และเงินเข้ากองทุนน้ำมันเดือนละประมาณ9000ล้านบาท ถ้าปีนึงก็นับแสนล้านบาท เงินแสนล้านบาทสู้เอามาพัฒนาระบบขนส่งมวลชนดีๆถูกๆให้คนไทยไม่ดีกว่าเหรอ? คนไทยส่วนใหญ่พอรับได้เรื่องราคาน้ำมันแพง เพราะทุกคนคิดว่ามันเป็นไปตามสภาวะราคาตลาดโลก แต่ที่คนไทยรับไม่ค่อยได้เรื่องหมูแพง! ไข่แพง! ก๋วยเตี๋ยวแพง! ข้าวแกงแพง! ผมหวังว่ารัฐบาลควรจะหันมามองเรื่องอาหารแต่ละมื้อของประชาชน มากกว่าเรื่องค่าน้ำมันนะครับ เพราะถึงลดค่าน้ำมันไป พวกพ่อค้าแม่ค้าเขาก็ไม่ลดราคาข้าวแกง ค่าก๋วยเตี๋ยวลงหรอก ถ้าน้ำมันแพง คนก็คิดจะประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ถ้าราคาอาหารแต่ละมื้อแพง คนมันต้องกิน ก็เหมือนถูกมัดมือชกครับ เพราะคงหยุดกินไม่ได้

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ01 กันยายน, 2554 20:25

    เห็นด้วยครับยังงี้คนรากหญ้าก็ไม่ได้ประโยชน์
    ผมไม่เลือกมันแต่แรกล่ะฉลาดไปโง่แต่ไอพวกฟายๆๆทั้งหลาย

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ01 กันยายน, 2554 21:08

    ถ้ารากหญ้าคนซื่อ ซื้อรถคืนภาษีไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ในฐานภาษี เขาก็น่าจะรู้ละนะว่า ตูโดนเค๊าหลอกกกอีกแล้ว

    แต่ถ้ายังเต็มใจให้หลอก มันก็ช่วยไม่ได้เนาะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ02 กันยายน, 2554 10:44

    ก็ยังทำดีกว่าพูดแล้วไม่ทำ นโยบายอื่นเยอะแยะดีๆๆทั้งนั้น กล้าคิดกล้าทำ

    ตอบลบ
  4. รู้เขาหลอก ก็เต็มใจให้หลอก เพราะไม่มีตัวเลือก

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ14 กันยายน, 2554 13:36

    จะรํฐบาลไหนก็ไม่เปลี่ยน ชีวิตก็เหมือนเดิม
    คาร์ล มาร์กซ์ เคยบอกไว้ ว่า พวกนายทุนใช้รัฐเป็นเครื่องมือแสวงหากำไร
    อิสระภาพที่พวกนายทุนต้องการก็เพื่อเอาเปรียบคนจนเท่านั้นเอง ฉะนั้นรู้กันยังว่าใคร มันเลว จะว่าผมเริ่มซ้าย ก็ไม่ว่า แต่ไอ้พวกนายทุนมันเอาเปรียบทั้งนั้น พวกนี้อยู่เบื้องหลังราคา น้ำมัน ราคาหมู ราคาปาล์ม ทั้งสิ้น ลองพวกนี้บอกต้นทุนแพง รัฐบาลทุนนิยมจะทำอะไรได้ เพราะพวกเราศรัทธาทุนนิยมมากไป ในขณะที่นายหลวงท่านบอกสอนสั่งเสมอว่า พอเพียง ใช้ในสิ่งที่จำเป็น ดูรัฐบาลสิ รถคันแรก แท็ปแล็ต อะไรเนี่ย สวนทางกับที่ในหลวงสอน นั้นก็เพราะรัฐบาลเป็นเพียงเครื่องมือของทุนนิยมไง

    ตอบลบ

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม