วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทุนนิยมฟุ้งเฟ้อ รัฐบาลใช้เงินเกินตัว คือหายนะ






สหภาพยุโรปกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะหลุดรอดจากวิกฤตินี้เมื่อไหร่ กรีซ โปรตุเกส สเปน อิตาลี กำลังเจอภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ รัฐบาลในแต่ละประเทศเป็นหนี้กันถ้วนหน้า

และมีการคาดการณ์กันว่า หากวิกฤติยูโรโซนนี้ยังไม่รีบจบ มันก็จะลามไปอีกหลายประเทศ ซึ่งคาดกันว่า ประเทศที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจรายต่อไปคือ ฝรั่งเศส

น้องๆ อาจไม่ต้องเรียนเศรษฐศาสาตร์ให้ปวดหัว ว่าต้นเหตุวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยุโรปเกิดจากอะไร เพราะผมตอบให้ง่ายๆ เลยว่า เกิดจากการใช้เงินเกินตัวของรัฐบาลในแต่ละประเทศ เกิดจากความฟุ้งเฟ้อของคนในประเทศ

คำว่ารัฐบาลใช้เงินเกินตัวก็คือ รัฐบาลมีรายรับไม่พอกับรายจ่าย และการกู้เงินอนาคตมา สร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจจอมปลอม จนเกิดภาวะเก็งกำไร และกลายเป็นฟองสบู่เศรษฐกิจในที่สุด

ประเทศไทยก็เคยประสบมาแล้ว จากวิกฤติต้มยำกุ้งในปี40 แต่กว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกได้ ฟองสบู่มันได้เริ่มสะสมมาก่อนนหน้านั้นมาหลายปีแล้ว

จากกระแสทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาในไทยมากจนเกินไป จากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินยุคชวน1 จึงทำให้ประเทศไทยมีเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสูง ก็เลยเกิดการนำเงินพวกนี้ไปปล่อยให้กู้ง่าย ๆ ซึ่งเงินพวกนี้ก็มักนำไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มากเกินความต้องการ จนเกิดการเก็งกำไรขึ้น และนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ ซึ่งมาแตกในยุครัฐบาลชวลิต!!

ฟองสบู่เศรษฐกิจ ก็คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจจอมปลอม ไม่ได้เติบโตจากความต้องการที่แท้จริง ไม่ได้เติบโตด้วยทุนในประเทศของตัวเอง แต่เป็นการนำเงินกู้มาสร้างความเติบโตจอมปลอมขึ้น สุดท้ายฟองสบู่มันก็แตก

ทั้งไทย สหรัฐอเมริกา และยุโรป ก็มีต้นตอจากปัญหาคล้ายๆ กัน แต่สรุปง่ายๆ ก็คือ เกิดจากการใช้เงินเกินตัวของทั้งรัฐบาลและคนในประเทศนั้นๆ นั่นเอง

จริงๆแล้ว ผมเขียนอธิบายเรื่องคล้ายๆ กัน นี้ ในบทความเก่าๆ มาพอสมควร จึงไม่ขอลงรายละเอียดตรงนี้อีก

--------------------------------------

รัฐบาลในยุโรปหลายประเทศจึงต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัด

เพราะที่ผ่านๆ มารัฐบาลในยุโรปหลายประเทศ เช่นกรีซ สเปน อิตาลี และอีกหลายๆ ประเทศ ใช้เงินเกินตัวจนก่อหนี้สาธารณะสะสมมากเกินไป เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนคนเรา มีรายได้หลักหมื่น แต่มีหนี้นับสิบๆ ล้าน แบบนี้มันก็ไปไม่รอด ก็ต้องล้มละลายในที่สุด

เช่น กรีซ ก็กำลังล้มละลาย แต่ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งกว่า ก็พยายามจะประคองไม่ให้ล้ม ด้วยการอุดหนุนเงินกู้ระยะยาว ดอกเบี้ยต่ำสุดๆ เพื่อประคับประคองกรีซ ไม่ให้ล้มละลาย เพราะถ้ากรีซล้มละลาย ก็หมายถึงหนี้สูญ และกรีซอาจต้องเร่ขายทรัพย์สินในประเทศในราคาถูก ผู้คนจะตกงานอดอยาก เพราะรัฐบาลไม่มีรายได้จะไปหล่อเลี้ยงระบบเป็นต้น

ที่สำคัญEU ก็จะอาจจะล้มตามกรีซไปด้วย ก็ปล่อยกู้ให้กรีซและอีกหลายประเทศไปมหาศาล ถ้าเกิดหนี้สูญก็ซวยด้วยแน่นอน จริงมะ ?

ลองคิดง่ายๆ ถ้าเราให้ใครกู้เงินไปเยอะๆ แต่สุดท้ายหนี้สูญเราซวยมั้ยล่ะ?

ฉะนั้นเมื่อกรีซ และอีกหลายประเทศ เป็นหนี้เยอะมากๆ แถมได้เงินกู้ใหม่มาเพื่อช่วยให้เกิดสภาพคล่อง เพราะรัฐบาลไม่มีเงิน

วิธีเดียวที่จะประคับประคองเพื่อให้ประเทศรอดต่อไปได้ ก็คือ ต้องใช้จ่ายให้น้อยที่สุด ต้องจ่ายให้น้อยกว่ารายได้ที่หาได้ เพื่อจะได้มีเงินเหลือพอไปใช้หนี้ นั่นก็คือ ต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัด

นโยบายรัดเข็มขัดก็คือ ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อะไรที่ฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น ต้องตัดทิ้งออกให้หมด เช่นลดเงินเดือน ปลดคนงาน ลดสวัสดิการแก่ประชาชน หรือลดโครงการก่อสร้างใหม่ๆ ของภาครัฐ เพื่อประหยัดงบประมาณ เป็นต้น

นโยบายรัดเข็มขัด จึงทำให้ประชาชนที่เคยได้รับสวัสดิการต่างๆ จากรัฐ ก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย ประชาชนทั่วยุโรปจึงได้ออกมาประท้วงคัดค้านนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลกันจะเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

คลิกดู คลิปข่าวสั้น เรื่องสหภาพแรงงานทั่วยุโรปประท้วงนโยบายรัดเข็มขัด จากรายการโลกยามเช้า

--------------------------

สหภาพแรงงานในยุโรป ประท้วงนโยบายรัดเข็มขัด




-----------------------------


ข้อคิดสำหรับคนไทย

เราคนไทยคงไม่อยากให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจแบบปี40 อีกแล้วใช่มั้ย?

เมื่อครั้งหลังวิกฤติปี 40 ผู้ที่ประสบสภาวะล้มละลายทางเศรษฐกิจในตอนนั้น ต่างเข้าใจทันทีว่า ปัญหามันเกิดจากการใช้เงินมือเติบ ใช้เงินเกินตัว กู้เงินอนาคตมาใช้มากเกินไป ทุกคนที่ผ่านจุดนั้นมาได้ ต่างนึกถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงในทันที

ทั้งๆ ที่ในหลวงทรงพร่ำสอนตักเตือนให้คนไทยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมากว่า30ปี แต่คนไทยตอนนั้นก็ฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวากันไปหมด จนกระทั่งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเข้ากับตัวเองจังๆ ถึงได้นึกถึงคำสอนของในหลวง

แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!!

อีกทั้งวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ของสหรัฐ ที่ผ่านไปเมื่อไม่กี่ปีนี้ ก็เกิดจากสาเหตุเดียวกัน จนเรื่อยมาถึงวิกฤติยูโรโซน ก็เช่นเดียวกัน

แต่เท่าที่ผมมองสถานการณ์ของสังคมไทยในวันนี้ ดูเหมือนว่า วันนี้คนไทยกำลังหลงลืม และหลงระเริงกับความฟุ้งเฟ้อทุนนิยมจ๋ากันอีกแล้ว นั่นเพราะ คนไทยจำนวนมากหลงไปเชื่อคำหลอกลวงของรัฐบาลที่ไม่หวังดีต่อคนไทย ไปเชื่อมหาเศรษฐีที่เลวที่สุดในประวัติศาตร์ไทย ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังหลอกลวงให้คนไทยกลายเป็นพวกนิยมความฟุ้งเฟ้ออีก

สังเกตได้เลยว่า ทุกครั้งที่ทักษิณโฟนอินมาคุยกับเสื้อแดง มันมักจะนำความร่ำรวยมาล่อหลอกพวกเสื้อแดงด้วยแทบทุกครั้ง

และตอนนี้นโยบายรัฐบาลเพื่อไทย ก็กำลังใช้เงินเกินตัวโดยไม่จำเป็น ใช้เงินไปกับประชานิยมโง่ ๆ ทีจะเป็นผลกระทบในอนาคตต่อประเทศไทยแน่ๆ

เพราะตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล ภาวะการส่งออกของไทยก็ย่ำแย่ นั่นหมายถึงรายได้น้อยลง แต่กลับใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัวมากเหลือเกิน

ทั้งหมดนั้น เพียงเพราะคนไทยหลงเชื่อคำว่าประชาธิปไตยจอมปลอม ที่นักการเมืองชั่วๆ เอามาล่อหลอกให้แท้ๆ

ฉะนั้น เราคนไทยจงตื่นจากความหลงใหลคำว่าประชาธิปไตยแบบโง่ๆ ที่ปล่อยให้รัฐบาลทำหายนะให้กับประเทศได้ตามอำเภอใจ

เริ่มต้นที่ตัวเรา ประหยัด และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่ใช่เห่อฟุ้งเฟ้อไปตามกระแส

แล้วอย่าสนับสนุนรัฐบาลซาตาน ที่ใช้จ่ายเงินเกินตัวในสิ่งที่ไม่สมเหตุผลหลายเรื่อง หลอกให้คนไทยเราฟุ้งเฟ้อ เหมือนทุกวันนี้ครับ

ระบอบประชาธิปไตยนั้นดี  เพียงอยู่ในมือนักการเมืองไทยเลว ๆ (ทุกยุคทุกสมัย)

นี่คือสาเหตุหนึ่ง ผมจึงไม่เชื่อถือพรรคการเมืองไทยทุกพรรคครับ เพราะนักการเมืองไทยไม่ได้ช่วยคนไทยอย่างจริงใจ เพราะจากหายนะที่ผ่านๆ มา คือบทพิสูจน์ความล้มเหลวของนักการเมืองไทย ที่ชอบกระตุ้นให้คนไทยใช้จ่ายเยอะ ๆ เพื่อหวังตัวเลขGDP สวยๆ 

คงมีแต่ในหลวงของเราเท่านั้น ที่ทรงมองการณ์ไกล ทรงเตือนพวกเราแล้ว แต่พวกเรากลับไม่นำพา 

"เมื่อรัฐบาลยังฟุ้งเฟ้อ แล้วจะสอนให้ประชาชนพอเพียงได้อย่างไร"

เราต้องช่วยกันไม่ให้ประเทศของเราทำผิดซ้ำอีก..

คลิกดูคลิปรายการ สยามวาระ ต้นเหตุวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ วิกฤติยูโรโซน (ห้ามพลาด!!)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม