วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

พันธบัตรรัฐบาลที่กำลังจะออก

"
"
อ่านข้อดีของเศรษฐกิจโลกตก
.
ก่อนอื่นผมไม่ได้คิดจะสนับสนุนการกู้เงินหลายแสนล้านของรัฐบาล แต่ผมไม่ถึงกับต้องออกมาคัดค้านแบบหัวชนฝา เพราะตอนนี้ที่ไหนๆในโลกก็ล้วนแต่คิดในแนวเดียวกันคือ ต้องกระตุ้นเศรษฐิกจเท่านั้น

แม้โดยส่วนตัวผมจะไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินจำนวนมากมายมหาศาลถึงขนาดนี้ แต่ในฐานะประชาชนคนนึงก็คงต้องให้โอกาสรัฐบาลได้ลองแก้ปัญหาดูก่อน
.akecity
อ่านแม้ไม่ชอบที่รัฐบาลทำ แต่ก็ต้องเชียร์

****************************

รายได้ปกติของรัฐก็คือรายได้จากภาษีรูปแบบต่างๆทั้งทางตรงทางอ้อม และค่าธรรมเนียมต่างๆในการติดต่อราชการ หรือรายได้ในรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลถือหุ้น เป็นต้น

ในเมื่อเศรษฐกิจของโลกและไทยตก เอกชนที่ทำธุริกจต่างๆก็มีรายได้ลดลง เพราะการส่งออกและการนำเข้าลดลงไปด้วย ทำให้รัฐก็ต้องขาดรายได้จากภาษีจำนวนมากจากกิจการเหล่านี้

ส่วนประชาชนก็มีตกงานเพิ่มขึ้น รายได้ประชาชนโดยรวมก็ลดลง การหมุนเวียนของเงินในระบบก็มีอันลดตามไปด้วย

แนวคิดที่รัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็เพื่อจะให้เอกชนอยู่ได้ ประชาชนมีงานทำเพิ่มขึ้น รัฐจึงคิดจะนำเงินมาสร้างงานในช่วงที่การสร้างงานทั่วๆไปของเอกชนถึงคราวตกต่ำ

พูดง่ายๆคือ รัฐต้องการเข้ามาเสริมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจของประเทศแทนภาคเอกชน เช่นผลกระทบจากการลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างชาติที่ซบเซาให้อยู่รอดผ่านพ้นวิกฤติไปได้ โดยการนำเงินมาสร้างงานให้ประชาชนแทน เพื่อนำมาพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานที่จำเป็นต่อประชาชนในช่วงซบเซาทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องระบบน้ำ ระบบชลประทาน

แต่รัฐขาดแคลนเงินที่จะนำมากระตุ้นเพื่อเยียวยา จึงต้องหาทางกู้เงินมาเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน กระตุ้นการบริโภคที่ซบเซาให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้ภาคธุรกิจและประชาชนต้องเดือดร้อนจนล้มหายตายจากไป

รัฐจึงออกพันธบัตรรัฐบาลโดยการขอยืมจากประชาชนที่มีเงินเย็นๆนอนอยู่ โดยรัฐจะให้ดอกเบี้ยแก่ประชาชนที่มาซื้อพันธบัตรให้มากกว่าการที่ประชาชนจะฝากเงินกับธนาคารอย่างทั่วๆไป

เท่ากับเป็นการพึ่งพาซึ่งกันและกันของภาครัฐกับภาคประชาชน เพราะรัฐก็จะได้เงินมาพัฒนาเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ ฟื้นฟูความตกทุกข์ได้ยากแก่ประชาชนที่ต้องเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ

ส่วนประชาชนที่ได้ซื้อพันธบัตรก็จะมีรายได้จากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เพราะนับวันๆธนาคารก็คอยแต่จะลดดอกเบี้ยเงินฝากลงทุกวัน โดยเฉพาะที่น่าสงสารก็คือผู้สูงอายุหลายๆคนที่ต้องอาศัยดอกเบี้ยมาใช้จ่ายในชีวิตตอนปลาย ที่นับวันๆ เงินต้นก็ร่อยหรอลงทุกวัน เพราะอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าอัตราดอกเบี้ย

ประชาชนจำนวนมากที่ไม่ได้รับการศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วน ต่างก็ตกอกตกใจกับการกลัวว่าตนเองจะเป็นหนี้ ทั้งๆที่ความจริงแล้ว รัฐต่างหากที่เป็นหนี้ และรัฐก็ไม่ได้มาให้ประชาชนมาออกเงินใช้หนี้โดยตรงแก่รัฐเลย

หากการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผลตามที่รัฐตั้งใจ เอกชนและภาคธุรกิจรอดภาวะวิกฤติแล้ว ประชาชนก็จะมีงานทำเพิ่มขึ้น รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้น เมื่อนั้นรายได้จากรัฐก็จะมากตามไปด้วย

เมื่อทุกอย่างเข้าที่ดีแล้ว รายได้รัฐเพิ่มขึ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนขนาดใหญ่แล้ว ในตอนนั้นรัฐก็จะประหยัดการลงทุนต่างๆลง เพื่อจะนำเงินไปใช้หนี้ให้แก่พันธบัตรที่กู้มาจากประชาชนในที่สุด

อย่างน้อยหนี้ภาครัฐคราวนี้ก็เป็นหนี้ในประเทศ รัฐเป็นหนี้ประชาชนจำนวนมากที่จะมาซื้อพันธบัตรเฉลี่ยๆกันไป มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังของแต่ละคน

ในอดีตถึงปัจจุบัน ไม่เคยเลยที่รัฐจะเบี้ยวหนี้พันธบัตรประชาชน ฉะนั้นปัญหาเรื่องหนี้ของรัฐ ประชาชนทั่วไปคงไม่ต้องทุกข์มากเกินไป อย่าตกอกตกใจกับกระแสปลุกปั่นจากคนบางกลุ่มว่า ไทยเราจะเป็นหนี้จนสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินนะครับ มันเกินไป

คนที่เข้าใจระบบเศรษฐกิจทั่วๆไปอย่างมีความรู้ ไม่มีใครเขาแตกตื่นเรื่องนี้กันจนขี้ขึ้นสมองหรอกครับ

แต่ถ้าจะทุกข์ เราก็ควรมาทุกข์ ในการช่วยกันตรวจสอบการใช้เงินของรัฐให้ตรงตามเป้าหมายดีกว่า ไม่ใช่เงินที่กู้มาจะละลายหายไป เพราะการทุจริตในระบบราชการ
.
อ่านเรื่องรัฐบาลกู้ , สนธิผิดสัจจะ?
.
***************************

พันธบัตรรัฐบาลกำลังจะออก เท่าที่ผมเพิ่งทราบก็จะมีอายุประมาณ5ปี และดอกเบี้ยจะเริ่มต้นที่3%ก่อน และจะทยอยเพิ่มขึ้นในปีที่3จนถึงปีที่5 และจะสิ้นสุดตรงที่ดอกเบี้ย5% เมื่อหมดอายุโครงการ

แตตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่า จะมีพันธบัตรอายุ7ปีด้วยหรือไม่ครับ
.
*************************
"akecity
อ่าน ค่านิยมที่ผิดของคนไทย
"
"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าแสดงความเห็นตรงช่องนี้ผมจะได้อ่านทุกความเห็นครับ แต่ถ้าความเห็นไม่ขึ้นอาจเพราะระบบรอตรวจสแปม ต้องรอ1-2วัน / ใหม่ เมืองเอก kaeake@ymail.com


ผู้ติดตาม